นัดพบแพทย์

ข้อสะโพกหลุด ทำไงดี!

08 Sep 2016 เปิดอ่าน 2430

ทุกวันนี้อุบัติเหตุตามท้องถนน มักนำมาซึ่งความสูญเสียและการบาดเจ็บของร่างกาย  ซึ่งหนึ่งในนั้นอาจเกิดจาก ข้อสะโพกหลุด  
       
       ข้อสะโพกนั้น เป็นข้อที่มีความมั่นคงสูง จากลักษณะที่หัวกระดูกสะโพกเป็นทรงกลมเคลื่อนไหวในเบ้าสะโพก ข้อสะโพกหลุดจึงเป็นการบาดเจ็บที่พบไม่บ่อย  เมื่อเทียบกับข้ออื่นๆ เช่น ข้อไหล่ สาเหตุที่ทำให้ข้อสะโพกหลุดนั้น มักเกิดจากอุบัติเหตุที่มีความรุนแรง เช่น  จากรถยนต์  หลังการบาดเจ็บ ผู้ป่วยมักมีอาการปวดมาก ไม่สามารถยืนได้ ขยับตัวลำบาก อาจสังเกตเห็นขาข้างที่ได้รับบาดเจ็บดูสั้นลงกว่าขาด้านตรงข้าม
       
       การวินิจฉัยนั้น  แพทย์จะประเมินจากภาพเอกซเรย์ของข้อสะโพก ว่า มีการเคลื่อนหลุดของหัวกระดูกสะโพกออกจากเบ้าสะโพกหรือไม่   ซึ่งการที่ข้อสะโพกเคลื่อนหลุดนั้น  บางครั้งอาจมีการแตกหักของหัวกระดูกสะโพก หรือขอบเบ้าสะโพกร่วมด้วย อันเนื่องมาจากการกระแทกกันอย่างแรงของกระดูกทั้งสองส่วนนี้ก่อนที่จะเกิดการเคลื่อนหลุดของข้อ  ซึ่งหากมีกระดูกหักร่วมด้วยแล้ว  ก็จะทำให้การรักษาซับซ้อนขึ้นอาจจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อยึดกระดูกที่หักในภายหลัง
       
       ในด้านการรักษานั้น  แพทย์จะทำการดึงข้อสะโพกให้เข้าที่  ซึ่งส่วนใหญ่มักต้องทำในห้องผ่าตัดโดยให้ยาสลบเพื่อลดการตรึงตัวของกล้ามเนื้อที่อยู่รอบๆ ข้อสะโพก ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อขนาดใหญ่หลายมัด (ต่างจากการดึงข้อไหล่ ซึ่งอาจทำในห้องฉุกเฉินได้โดยการฉีดยาระงับปวด) สิ่งที่สำคัญมากที่สุด คือ  ข้อสะโพกที่หลุดนั้น จะต้องได้รับการดึงกลับเข้าที่โดยเร็วที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงต่อภาวะหัวกระดูกสะโพกขาดเลือด ซึ่งจะทำให้หัวกระดูกสะโพกยุบ เกิดการผิดรูป ทำให้ข้อเสื่อมในภายหลัง  โดยพบภาวะหัวกระดูกสะโพกขาดเลือด ร้อยละ 10-34 ของผู้ป่วยที่มีข้อสะโพกเคลื่อนหลุด และหากดึงข้อสะโพกให้เข้าที่เกิน 6 ชั่วโมงภายหลังการบาดเจ็บ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนนี้
       
       หลังจากดึงข้อสะโพกเข้าที่แล้ว ข้อมักจะมีความมั่นคงดี และโอกาสเกิดการหลุดซ้ำของข้อก็มีน้อย  (ต่างจากข้อไหล่ที่หลุดได้ง่ายกว่า และมีการหลุดซ้ำได้บ่อยมาก) ช่วงแรกของการฟื้นฟูสภาพจะเป็นการให้ผู้ป่วยบริหารให้วงของการเคลื่อนไหวข้อสะโพกกลับมาปกติ และเดินด้วยไม้ค้ำยันประมาณ 1-2 เดือน แล้วจึงสามารถเดินลงน้ำหนักได้เต็มที่ จากนั้นก็ต้องบริหารกล้ามเนื้อบริเวณสะโพก และต้นขาให้มีความแข็งแรง โดยทั่วไปจะเริ่มวิ่งเหยาะได้ประมาณ 3-4 เดือน ภายหลังการบาดเจ็บ และผู้ป่วยต้องมาพบแพทย์เป็นระยะๆ เพื่อตรวจร่างกายและเอกซเรย์ดูว่าไม่มีลักษณะของภาวะหัวกระดูกสะโพกขาดเลือด

* ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000112856