โรคอ้วน มาจากปัจจัยที่ซับซ้อน ถือเป็นภาวะที่อันตรายต่อ สุขภาพอย่างมากเพราะก่อให้เกิดโรคที่ร้ายแรง เช่น เบาหวาน หัวใจ ความดันโลหิตสูง และเพิ่มโอกาสที่จะเป็นมะเร็งมดลูก ลำไส้ใหญ่ และเต้านม มีผู้ป่วยหลายคนที่พยายามจะลดความอ้วน เช่น ออกกำลังกาย ลดอาหาร รับประทานยา แต่ก็ไม่สามารถลดได้ การผ่าตัดลดความอ้วนจึงเป็นทางเลือกในการรักษาที่มี ประสิทธิภาพ
การผ่าตัดลดความอ้วน เป็นการผ่าตัดลดขนาดของกระเพาะอาหารลง (Sleeve Gastrectomy) โดยตัดกระเพาะอาหารออกไปประมาณ 80%ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง เพราะตัดกระเพาะอาหารส่วนที่ผลิต Hormone ที่ทำให้เกิดการหิวออกไป เป็นการผ่าตัดที่นิยมมากในขณะนี้ เพราะไม่ต้องตัดต่อกับลำไส้เล็ก และผู้ป่วยจะไม่เป็นโรคขาดสารอาหารจากการผ่าตัด ผู้ป่วยจะสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 40-60% ของน้ำหนักส่วนเกินในปีแรกหลังผ่าตัด และยังเป็นการรักษาโรคข้างเคียง เช่น เบาหวาน ระดับไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง สามารถทำการผ่าตัดได้โดยไม่มีข้อจำกัดเด็กอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ก็สามารถผ่าตัดด้วยวิธีนี้ได้
ขั้นตอนการผ่าตัด การผ่าตัดลดขนาดของกระเพาะอาหาร (Sleeve Gastrectomy) ผ่าตัดโดยการดมยาสลบ และทำการผ่าตัดผ่านกล้องแบบแผลเล็ก ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 1 ชั่วโมง และพักรักษาที่โรงพยาบาล 3 คืน หลังผ่าตัดสามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ
ผลลัพธ์ของการผ่าตัด น้ำหนักลดลงอย่างต่อเนื่อง จากการผ่าตัดทำให้รับประทานได้น้อยลง เพราะลดฮอร์โมน ที่ทำให้หิว และกระเพาะขนาดเล็กลง การผ่าตัดนี้ผู้ป่วยจะสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 40-60% ของน้ำหนักส่วนเกิน และ เป็นการรักษาโรค และอาการร่วมอื่นๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ไปในตัวด้วย
สนับสนุนข้อมูลโดย : นพ.จักรกฤษ อุ้ยนิรันดรกุล
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาศัลยศาสตร์ทั่วไป
และการผ่าตัดผ่านกล้อง
โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล
* ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.ryt9.com/s/nnd/2443204