นัดพบแพทย์

กิฟท์ (GIFT, Gamete intrafallopian transfer)

30 Aug 2016 เปิดอ่าน 2818

คือวิธีการที่ใส่เชื้ออสุจิ(ที่เตรียมแล้ว)และไข่ (sperm and egg) เข้าไปในท่อนำไข่ของฝ่ายหญิง 1 หรือ 2 ข้าง ทั่วๆไปจะใส่ไข่ 2  ฟองร่วมกับตัวเชื้ออสุจิ  5 หมื่นถึง 1 แสนตัวต่อท่อ 1 ข้าง (รวมแล้วใช้ไข่ 4 ฟอง)

ข้อบ่งชี้
1. ภาวะมีบุตรยากที่ไม่ทราบสาเหตุ
2. เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญนอกโพรงมดลูก
3. เชื้ออสุจิอ่อนแต่ไม่มาก
4. หลังจากไม่สำเร็จจากการผสมเทียมโดยใช้เชื้อชายอื่น

ขั้นตอน

1. การกระตุ้นไข่ให้ได้ไข่หลายๆฟอง ในรอบธรรมชาติจะมีไข่เพียง 1 ฟอง
ต่อเดือน แต่ในรอบที่จะใช้วิธีช่วยการเจริญพันธุ์ เช่น กิฟท์ เราจะกระตุ้น
รังไข่หลายๆฟองเพื่อเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ ซึ่งมีหลายวิธี  แต่วิธีการที่ใช้บ่อย
คือ

1.1 วิธีที่ใช้ระยะเวลายาว (long protocol) โดยการให้ฮอร์โมน
ตัวหนึ่ง (GnRHa, gonadotropin releasing hormone agonists) อาจโดยการพ่นยาเข้าโพรงจมูกหรือฉีดยาเข้าใต้ผิวหนัง ประมาณ 7-10 วันก่อนที่จะมีประจำเดือนให้ไปจนกระทั่งตรวจพบว่าระดับ
ฮอร์โมนเอสตราไดออล (estradiol) มีระดับน้อยกว่า 30-35
พิโคกรัมต่อซี.ซี  จึงเริ่มต้นยาฉีดเพื่อกระตุ้นรังไข่ ยาที่ใช้คือ hMG (human menopausal gonadotropin) หรือ FSH(follicle stimulating hormone) ซึ่งมีชื่อทางการค้าแตกต่างกันไป
ส่วนใหญ่จะให้ยาฉีดทุกวัน ติดตามผลการกระตุ้นรังไข่โดยการดู
ขนาดของถุงไข่(follicle)ด้วยเครื่องคลื่นเสียงความถี่สูง อาจใช้ร่วม
กับการตรวจเลือดเพื่อดูระดับ เอสตราไดออลซึ่งระดับจะสูงสัมพันธ์กับ
ขนาดและจำนวนของถุงไข่  ให้ยาจนกระทั่งมีถุงไข่ที่มีขนาดเส้นผ่า
ศูนย์กลาง 18-20 มม. (จากการวัดโดยคลื่นเสียงความถี่สูง) จำนวน
อย่างน้อย 2-3 ถุง จึงให้ฮอร์โมนอีกชนิดหนึ่ง (hCG, human chorionic gonadotropin) ขนาด 5,000-10,000 ยูนิต ฉีดเข้า
กล้ามเนื้อ และจะทำการเจาะเก็บไข่ (ovum pick up) หลังจากยา
ฉีดประมาณ 34-36 ชั่วโมง

1.2 วิธีที่ใช้ระยะเวลาสั้น (short protocol) โดยการให้ฮอร์โมน GnRHa )โดยการพ่นยาเข้าโพรงจมูกหรือฉีดยาเข้าใต้ผิวหนังโดย
เริ่มยาวันที่ 2-3 หลังจากที่มีประจำเดือนและให้ยาฉีดเพื่อกระตุ้น
รังไข่ 1 วันหลังจากได้ฮอร์โมน GnRHaหลังจากนั้นขั้นตอนจะ
เหมือนกับวิธีที่ 1.1

2. การเจาะเก็บไข่ (ovum pick up) โดยทั่วๆไปจะใช้การเจาะผ่านทางช่องคลอดโดย
การใช้คลื่นเสียงความถี่สูงช่วยส่วนน้อยจะเจาะผ่านผนังหน้าท้อง หรือผ่านทางกล้องส่อง
ผ่านทางผนังหน้าท้อง จะกระทำภายใต้การให้ยาสลบเพื่อไม่ให้เจ็บปวดหรืออาจให้เพียง
ยาระงับปวดร่วมกับยากล่อมประสาทก็ได้ 
3. การเตรียมน้ำอสุจิ จะเตรียมน้ำอสุจิโดยการให้ฝ่ายชายเก็บอสุจิโดยการช่วย
ตัวเอง (masturbation) และนำน้ำอสุจิที่ได้ไป เตรียมทางห้องปฏิบัติการ
4. การใส่อสุจิร่วมกับไข่เข้าไปในท่อนำไข่ของฝ่ายหญิง โดยทั่วๆไปจะกระทำ
ผ่านทางกล้องส่องเจาะผ่านผนังหน้าท้อง (ส่วนน้อยจะทำผ่านโพรงมดลูกและผ่านสายเข้าท่อนำไข่โดยใช้กล้องส่องภาย
ในโพรงมดลูกหรือใช้คลื่นเสียงความถี่สูงช่วย) ส่วนใหญ่จะกระทำภายใต้การ
ให้ยาสลบเพื่อไม่ให้เจ็บปวด
5. หลังใส่เชื้ออสุจิและไข่เข้าทางท่อนำไข่เรียบร้อยแล้วจะแนะนำให้นอน
พักผ่อน แต่ไม่ถึงขนาดต้องนอนนิ่งๆบนเตียงตลอดเวลา อาจทำงานได้บ้างเบาๆ 
จะมีการให้ยารับประทานหรือยาฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือให้ยาทั้งสองชนิดร่วมกัน 
(ยารับประทานอาจให้เหน็บช่องคลอดได้) แล้วแต่แพทย์แนะนำ
6. ประมาณ 2 สัปดาห์หลังจากทำกิฟท์ จะนัดมาเจาะเลือดเพื่อดูว่าตั้งครรภ์หรือ
ไม่

     โอกาสตั้งครรภ์ ประมาณ ร้อยละ 30-40 ค่าใช้จ่าย ค่อนข้างสูง

 

ขอขอบพระคุณ
ผศ.นพ. สิงห์เพ็ชร สุขสมปอง
สาขาวิชาผู้มีบุตรยาก ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

 

* ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.smarthospital-ivf.info/html/index.php?sub_me=24