ถุงน้ำดี มีลักษณะเป็นถุง เป็นกระเปาะ มีทางเดินติดต่อกับระบบน้ำดีส่วนกลาง ถุงน้ำดีมีหน้าที่กักเก็บน้ำดีที่สร้างมาจากตับ แล้วจะมาถูกพักไว้ในถุงน้ำดี เมื่อรับประทานอาหารเข้าไป โดยเฉพาะอาหารมันๆ จะไปกระตุ้นให้เกิดการบีบตัวของถุงน้ำดี ทำให้น้ำดีที่พักไว้ในถุงไหลลงสู่ระบบน้ำดีเข้าสู่ทางเดินอาหารเพื่อย่อยสลายอาหารต่อไป
เหตุที่ต้องตัดถุงน้ำดีมีอยู่ 2 สาเหตุหลักๆ คือ 1. มีนิ่วเกิดขึ้นในถุงน้ำดี 2.มีก้อนเนื้อเกิดขึ้นในถุงน้ำดี หลังจากตัดถุงน้ำดีออก อาจทำให้การย่อยอาหารผิดปกติไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรับประทานอาหารที่มีไขมันมากๆ ซึ่งปริมาณน้ำดีอาจน้อยลง เนื่องจากไม่มีที่พักเก็บน้ำดีแล้ว โดยที่น้ำดีจะไหลลงมาเรื่อยๆ สู่ระบบทางเดินอาหาร ทำให้มีอาการท้องอืดแน่นท้องได้ยิ่งในระยะแรกหลังการผ่าตัด แต่เมื่อเวลาผ่านไป คนไข้อาจมีการปรับตัว เช่น ท่อทางเดินน้ำดีมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น น้ำดีก็อาจจะมาค้างที่ท่อทางเดินน้ำดีมากขึ้น หรือเมื่อคนไข้เริ่มปรับตัวได้มากยิ่งขึ้น ก็จะทำให้ระบบการย่อยอาหารนั้นกลับมาเหมือนหรือคล้ายๆ กับปกติได้
สำหรับการดูแลตนเองหลังการผ่าตัด ควรระวังเรื่องของบาดแผลเป็นสำคัญ โดยปกติแผลจะหายในเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ แพทย์จะแนะนำในช่วง 1-2 เดือนแรก อย่าหักโหมทำงานหนัก ยกของหนัก หรือเดินทางไกลๆ เพราะแผลที่หายสนิทอาจจะยังไม่สมานเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่แข็งแรงพอ และอาจมีการปริแยกของแผลได้
รศ.นพ.ธวัชชัย อัครวิพุธ
* ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9560000005788