ทำไมจึงอยากเป็นหมอ? คำตอบสไตล์คนหนุ่มรุ่นใหม่ฟังง่ายๆ บอกว่า เพราะสอดคล้องกับคติการดำเนินชีวิตที่ว่า “ผมอยากช่วยเหลือคนครับ!!!” ร.ท.นพ.ปโยธร เดชะรินทร์ สังกัดกรมแพทย์ทหารเรือ และกำลังศึกษาต่อแพทย์เฉพาะทาง สาขาประสาทศัลยศาสตร์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า เจ้าของคำพูดนี้ที่ฟังแล้วน่าชื่นชมอย่างยิ่ง เมื่อบวกกับใบหน้าผิวพรรณผ่องใสของเจ้าตัว ก็ทำให้คำพูดประโยคนี้ทวีความน่าฟังน่าชื่นชมยิ่งขึ้นไปอีก
“เด็กๆ ผมไม่เคยคิดอยากเป็นหมอเลย ผมอยากเป็นนายแบงก์นับเงิน (หัวเราะเบาๆ เรียบร้อยๆ ซึ่งเป็นบุคลิกประจำตัว) อยากทำงานนี้ก็เมื่อตอนโตขึ้นมาสักพักหนึ่งนะครับ เพราะรู้สึกว่าเป็นสาขาวิชาที่ทำงานละเอียดสลับซับซ้อน และท้าทายอีกสาขาอาชีพหนึ่งครับ ผมไม่ใช่คนเรียนเก่งหัวดีอะไร ต้องตั้งใจเรียนครับจึงจะได้คะแนนดีๆ ผมจบมัธยมปลายมาจากสาธิตจุฬาฯ ก็ไม่ได้ว่าโดดเด่นมากมาย” คุณหมอโย นายแพทย์ทหารเรือหนุ่มใบหน้าละอ่อน วัย 27 ปี บอกด้วยน้ำเสียงเรียบๆ พร้อมรอยยิ้มแสดงถึงอัธยาศัยดี ซึ่งมาพร้อมๆ กับความถ่อมตัว เพราะที่บอกว่าเรียนพอใช้ แต่คุณหมอเรียนจบคณะแพทยศาสตรบัณฑิต วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ด้วยคะแนนเกียรตินิยมอันดับ 1 !!!
และสิ่งสำคัญที่สุดอาชีพนี้ ร.ท.นพ.ปโยธร บอกอยากทำงานที่รู้สึกว่าทำแล้วได้ช่วยเหลือคนอื่น
“ช่วยใครได้ก็จะรีบช่วยเหลือครับ ไม่รีรอ” ร.ท.นพ.ปโยธร บอกว่าเป็นนิสัยของเขาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว และเล่าถึงเหตุการณ์ประทับใจในเรื่องนี้ที่ช่วยปั๊มหัวใจคนไข้สูงวัยที่หยุดหายใจไปเกือบๆ ชั่วโมงให้กลับมาหายใจอีกครั้งราวกับปาฏิหาริย์ เพราะเป็นการกลับมาอย่างคนปกติทุกประการ
“เป็นเรื่องเหลือเชื่อนะครับ คนไข้อายุ 70 กว่าแล้ว ป่วยด้วยโรคหัวใจ แล้วเพราะหมอช่วยกันปั๊มหัวใจไม่ยอมหยุดเลยนะครับ จึงช่วยชีวิตเขาขึ้นมาอีกครั้ง” ร.ท.นพ.ปโยธร อธิบายโรคหัวใจน่ากลัว พบอัตราเสี่ยงในคนไทยเป็นอันดับ 2 รองจากการเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ และโรคมะเร็งก็ตามมาติดๆ เป็นโรคน่ากลัว 3 อันดับแรก ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อได้คุยกับคุณหมอ จึงต้องถามถึงการดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคร้ายพวกนี้
“ควบคุมอาหาร ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และต้องมาพบแพทย์ตรวจสุขภาพร่างกายเป็นระยะๆ นะครับ โรคบางชนิดจะไม่มากล้ำกรายถ้าเรารักและรู้จักดูแลตัวเอง หมอพูดอย่างนี้ฟังๆ แล้วก็เหมือนได้ยินกันบ่อยๆ นะครับ แต่การดูแลตัวเองมีกฎไม่กี่ข้อแค่นี้เองนะครับ ผมอยากบอกว่ามีอีกหลายๆ โรคที่ยังไม่รู้สาเหตุ และรักษายาก เช่น มะเร็งในเด็กที่อาจเกิดจากพันธุกรรม มะเร็งในเลือดหรือในต่อมน้ำเหลืองที่หมอยังตรวจหาสาเหตุไม่ได้ชัดเช่นกัน เพราะฉะนั้นอะไรที่เรารู้ว่าคือปัจจัยทำให้เกิดโรค เช่น การสูบบุหรี่ การกินอาหารไขมันสูง บวกกับไม่ (เคย) ออกกำลังกาย (เลย) หรือไม่เคยตรวจสุขภาพประจำปี ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นต้นทางของโรคหัวใจ… ใครๆ ก็รู้นะครับ แต่จะดูแลตัวเองหรือไม่? นั่นแหละคือปัญหา” ร.ท.นพ.ปโยธร กล่าวพร้อมรอยยิ้มติดใบหน้าใส
ปัจจุบัน ร.ท.นพ.ปโยธร แพทย์สังกัดกรมแพทย์ทหารเรือ กำลังศึกษาต่อแพทย์เฉพาะทาง สาขาประสาทศัลยศาสตร์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า เป็นที่รู้กันว่าเมืองไทยเราขาดแคลนแพทย์ศัลยกรรมประสาท แต่ในอนาคตอันใกล้นี้เรากำลังจะมีโปรไฟล์หมอศัลยกรรมประสาทเก่งๆ ใบหน้าใสๆ เพิ่มมาอีก 1 คนแล้ว
“ศัลยกรรมประสาทเกี่ยวกับโรคทางระบบประสาทที่ควบคุมระบบร่างกายทั้งหมด ทั้งสมอง ทั้งระบบไขสันหลัง ถ้าไม่เข้าผ่าตัด หมอต้องออกตรวจคนไข้วันละ 1020 รายครับวันจันทร์พฤหัสฯ ส่วนวันศุกร์เป็นการสรุปในเชิงวิชาการให้อาจารย์หมอฟังว่าตลอดอาทิตย์เจอเคสโรคเกี่ยวกับอะไรบ้าง อย่างที่หมอบอกครับว่าเป็นงานท้าทาย คือถ้าโรคเกิดขึ้น การแก้ไขจะมีความละเอียดและมีความซับซ้อนอย่างมาก” ร.ท.นพ.ปโยธร อธิบาย
งานหมอจึงเป็นงานที่หนักในแบบทำเช้าจรดเย็น เวลาพักผ่อนไม่แน่นอน ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับเคสคนไข้ขณะนั้น
“ผมอยากทำงานนี้ เพราะหมอขาดแคลนด้วยครับ (บอกพร้อมรอยยิ้ม) โรงพยาบาลพระมงกุฎมีหมอสาขานี้ 10 คน แต่ผมก็รู้ตัวตั้งแต่เอนทรานซ์แล้วว่าเมื่อทำงานก็ต้องเจอหนักพอสมควร เหนื่อย ท้อ มีอยู่แล้วครับ แต่ถ้าคิดถึงผลลัพธ์และกำลังใจที่คนไข้มีให้เราก็พอมีกำลังใจขึ้นมาบ้าง” ร.ท.นพ.ปโยธร บอกตบท้ายพร้อมรอยยิ้มใจดีในแบบคนไข้เห็นแล้วหายป่วยโดยพลัน
* ขอบคุณบทความจาก : https://soclaimon.wordpress.com/2011/08/29/%E0%B8%A3-%E0%B8%97-%E0%B8%99%E0%B8%9E-%E0%B8%9B%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%98%E0%B8%A3-%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%8A%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B9%80%E0%B8%97/
