จากข้อมูลทางสถิติของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่าประเทศไทยมียอดผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็ง จำนวน 241,000 คน โดยเพศชายป่วยด้วยโรคมะเร็งสูงกว่าเพศหญิง มีผู้เสียชีวิตประมาณปีละ 53,000 คน
นพ.กสานติ์ สีตลารมณ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แผนกมะเร็งวิทยา กองอายุรกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าและกรรมการมะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากข้อมูลทางสถิติของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่าประเทศไทยมียอดผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็ง จำนวน 241,000 คน โดยเพศชายป่วยด้วยโรคมะเร็งสูงกว่าเพศหญิง มีผู้เสียชีวิตประมาณปีละ 53,000 คน
นพ.กสานติ์ กล่าวว่า อาหารบางชนิดอาจมีผลต่อการเกิดหรืออาจป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ ได้แก่ 1.อาหารเนื้อสัตว์ประเภทปิ้ง ย่าง 2. เนื้อสัตว์ที่มีส่วนผสมของดินประสิว เช่น ไส้กรอก เนื้อแดดเดียว 3.อาหารที่ทอดในน้ำมันที่ซ้ำไปซ้ำมา 4.อาหารที่มีเชื้อราปนเปื้อน เช่น ถั่วลิสง ข้าวโพดคั่ว 5.อาหารที่มีสีสันฉูดฉาด หรือสีย้อมผ้าผสม ซึ่งอาหารดังกล่าวหากมีการบริโภคมากจะก่อให้เกิดโรคอ้วน และ อาจเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งสูง
ส่วนการป้องกันการเกิดโรคมะเร็งที่เกิดจากอาหารสามารถทำได้โดยลดการรับประทานสัตว์เนื้อแดง ควรหันมาบริโภคไก่(ปลอดหนัง) ปลา แทนลดอาหารที่มีไขมันสูง ควรรัประทานผักและผลไม้ที่ปราศจากสารพิษ โดยเฉพาะพืช ผักที่มีหลากสีสันหรือมีสารไฟโตนิวเทรียนท์ เช่น ข้าวโพด มะเขือเทศ บล็อกโคลี่ ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า antioxidant พบมาก และควรมีผักในทุกๆ มื้อ แต่หากผู้ป่วยมีอาการเบื่ออาหาร แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยบริโภคอาหารเสริมได้ตามความเหมาะสม
"สำหรับผู้ป่วยที่ต้องทำการรักษาด้วยเคมีบำบัดผ่าตัด แพทย์จะไม่แนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารแบบมังสวิรัต หรือ ชีวจิต เนื่องจากร่างกายของผู้ป่วยอยู่ในสภาวะที่อ่อนแอ ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับสารอาหารเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ เพื่อซ่อมแซมเซลปกติ และช่วยให้ร่างกายสามารถรับการรักษาได้ครบถ้วนตามแผนที่แพทย์ได้วางไว้ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมีสารอาหารครบถ้วนตามความต้องการของร่างกาย สิ่งที่สำคัญมากคืออาหารต้องสุกและสะอาด ในขณะที่มีภาวะเม็ดโลหิตขาวต่ำหรือมีภูมิคุ้มกันต่ำ ต้องหลีกเลี่ยงอาหารไม่สุก เช่น หอยนางรม กุ้งเต้น ปลาดิบ"นพ.กสานติ์ กล่าว
ขอบคุณบทความจาก : http://www.thaihealth.or.th
