นัดพบแพทย์

“มารู้จัก...โรคตาแห้ง”

08 Oct 2017 เปิดอ่าน 1366

อาการแสบตา เหมือนมีเศษฝุ่นอยู่ในตาตลอดเวลา แล้วน้ำตาไหล โดยเฉพาะเวลาใช้คอมพิวเตอร์นาน ๆ จนรู้สึกปวดหัวปวดตา อาการต่าง ๆ ที่ว่านี้ จะเป็นอาการของโรคตาแห้งหรือไม่ มาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับเรื่องนี้กัน

ตาแห้ง เป็นภาวะที่มีปริมาณน้ำตาหล่อเลี้ยงผิวตาไม่เพียงพอ สาเหตุหลักมาจากการสร้างน้ำตาน้อยลง หรือน้ำตาระเหยมากไป ส่งผลให้เกิดจากการอักเสบของผิวตา ซึ่งสาเหตุเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย และสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย เช่น ผู้ป่วยมีโรคบางอย่างเช่น Sjogren’s Syndrome หรือโรคแพ้ภูมิตนเองที่โรคมีการทำลายเซลล์ของต่อมน้ำตา วัยทองที่มีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย หรือมีการใช้ยาบางอย่าง  ยาหยอดตาบางชนิด การรับประทานยาที่ทำให้การสร้างน้ำตาลดลง ผู้ที่มีความผิดปกติของเปลือกตาหรือเส้นประสาทมาเลี้ยงเปลือกตาทำให้หลับตาไม่สนิท มีการกระพริบตาที่ผิดปดกติ โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคทางระบบเส้นประสาทและสมอง ที่อาจมีการดึงรั้งของเปลือกตาทำให้ขนตาผิดทิศ งอกทิ่มลงเข้าตาตัวเองได้ เป็นต้น นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมที่มีลมแรง อากาศแห้ง หรือการใช้สายตาต่อเนื่องเป็นเวลานานก็อาจเป็นเหตุทำให้เกิดภาวะตาแห้งได้

อาการของโรคตาแห้ง มีได้หลายอย่าง  เช่น  ผู้ป่วยอาจจะรู้สึกฝืดที่ตา ระคายเคืองเหมือนมีเศษฝุ่นอยู่ในตา แพ้แสง แพ้ลม บางคนอาจมีขี้ตาเป็นเมือกเหนียว  ในบางครั้งผู้ป่วยอาจมาด้วยอาการเคืองตา น้ำตาไหลมากได้  เนื่องจากการระคายเคืองตากระตุ้นให้ต่อมน้ำตาทำการบีบน้ำตาออกมามาก  กรณีที่ตาแห้งมากอาจส่งผลให้ตามัวได้ เมื่อมีอาการต่าง ๆ เกิดขึ้นทำให้เรารู้สึกไม่สบายตา คุณภาพชีวิตแย่ลง หากปล่อยให้ตาแห้งเป็นเรื้อรัง จะทำให้เกิดอักเสบของกระจกตา เป็นแผลกระจกตาหรือบางคนร้ายแรงอักเสบติดเชื้อทำให้ตาบอดได้

การรักษา อาจใช้การหยอดน้ำตาเทียมชดเชยน้ำตาธรรมชาติ และฝึกกระพริบตาให้สม่ำเสมอ อาจทำการประคบน้ำอุ่น นวดและฟอกทำความสะอาดเปลือกตา เพื่อกำจัดเชื้อโรคและสิ่งสกปรกที่อยู่บริเวณรอบเปลือกตา รวมถึงลดการเกิดต่อมไขมันเปลือกตาอุดตันซึ่งเป็นเหตุทำให้มีเปลือกตาอักเสบเรื้อรัง อันเป็นผลทำให้เกิดตาแห้งได้ ในกรณีที่ตาแห้งและมีการอักเสบของผิวตามาก อาจจำเป็นต้องใช้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบของผิวตาและเยื่อบุตา ซึ่งกรณีนี้ไม่แนะนำให้ซื้อยาใช้เอง ควรได้รับการตรวจรักษาโดยตรงกับจักษุแพทย์

สำหรับผู้ที่รู้สึกว่าระคายเคืองไม่สบายตา ในเบื้องต้นสามารถใช้น้ำตาเทียมหยอดเพื่อให้ความชุ่มชื่นแก่ดวงตาบรรเทาอาการก่อนได้ จากนั้นจึงลองสังเกตพฤติกรรม สิ่งแวดล้อมและมีปัจจัยเสี่ยงใดที่นำไปสู่ภาวะตาแห้งได้หรือไม่ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การใช้คอมพิวเตอร์ควรพักสายตาเมื่อจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน หรือใช้แว่นตาป้องกันแสงแดด ฝุ่นละออง ลมแรง ๆ หรือผู้ที่รับประทานยาให้สังเกตว่ามีผลต่อภาวะตาแห้งหรือไม่ หากไม่พบสาเหตุที่แน่ชัดหรืออาการไม่บรรเทาลง แนะนำให้รีบไปพบจักษุแพทย์ทันที

 

ข้อมูลจาก อ.พญ.ชารีนันท์ จิรภาไพศาล ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

ขอบคุณบทความจาก : http://pattayacityhospital.go.th/th/node/1032