ปัญหาหนึ่งที่คุณแม่ต่างกังวลใจ อย่างมาก ก็คือ แผลเป็นที่เกิดขึ้นหลังผ่าตัดคลอดบุตรแล้วแลดูหน้าท้องไม่สวยเหมือนเดิม จะทำอย่างไรดีให้แผลเป็นนั้นยุบหายลงไปได้บ้าง มีวิธีการรักษาอย่างไรให้ ผิวหน้าท้องกลับมาแลดูเนียนสวย ไม่มีรอยแผลเป็นนูนแดง
นพ.ธรรมนูญ พนมธรรม ศัลยแพทย์ตกแต่ง โรงพยาบาลราชวิถี ให้ข้อมูลในงานเสวนาเรื่อง รู้จริงเรื่อง…แผลเป็นว่า การเกิดรอยแผลเป็นนั้นมีหลายปัจจัย อย่างแรก คือ เรื่องอายุ ในคนที่อายุน้อยๆ จะมีโอกาสการสร้างพังผืดเยอะกว่า ในคนที่มีอายุมากหรือสูงอายุ ตำแหน่งการเป็นของแผล ก็เป็นปัจจัยหนึ่ง ถ้าตำแหน่งที่เกิดในบริเวณหน้าอกทั้งด้านหน้าด้านหลัง ไหล่ หู หรือในส่วนบริเวณผิวหนังที่มีการเคลื่อนไหวได้บ่อยๆ ก็มีโอกาสสูงที่จะเกิดแผลเป็นที่ดูไม่ดีได้
กรณีผู้หญิงที่ผ่าคลอด นพ.ธรรมนูญ กล่าวว่า ในกรณีผ่าคลอดซ้ำแผลเดิมที่นูนอยู่แล้ว แผลจะนูนขึ้นได้อีก เพราะแผลนั้นค่อนข้างชัดเจน คือเย็บอยู่ในตำแหน่งบริเวณผิวหนังที่มีการขยับและเคลื่อนไหวในการดำเนินชีวิตประจำวันอยู่ตลอดเวลา
กรณีคนไข้เพิ่งเคยผ่าตัด หลังผ่าตัดใหม่ๆ ก็แนะนำการใช้แผ่นเทปปิดก่อนเพื่อจะรั้งไม่ให้แผลตึงจนเกินไป ต้องรั้งอย่างน้อยประมาณ 3 เดือน ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรั้งแผลไม่ให้ยืดออก ถ้ายังไม่ได้ผล หรือแผลเริ่มจะแข็งหรือนูนขึ้นมาแล้ว ก็ให้ใช้แผ่นซิลิโคนเจลซีทปิด ปิดตลอด 24 ชั่วโมง อีกอย่างน้อย 1 เดือน แต่ถ้าหลังจากนั้นยังไม่ดีขึ้น ก็จะต้องฉีดยาสเตียรอยด์ ส่วนอาการคัน อาการปวด ก็ใช้พวกมอยเจอร์ไรเซอร์ และกินยา หรือทายาพวกสเตียรอยด์ เพื่อลดอาการคันและบวม
ส่วนการฉีดยาสเตียรอยด์ในแผลเป็นนูน แผลจะยุบลงจริง แต่ในระยะการหายของแผลเป็นประมาณ 1 ปี ก็อาจทำให้เกิดรอยบุ๋ม ซึ่งแผลลักษณะเป็นรอยบุ๋มจะรักษายาก นอกจากทำให้ผิวบางแล้ว ยังทำให้เกิดไฮเปอร์พิคเมนท์ คือ สีผิวจางกว่าผิวหนังด้านข้าง ทำให้แลดูไม่สวย
สำหรับการเย็บแผลโดยใช้วัสดุเย็บแผล ไม่ว่าจะเป็นเย็บไหมละลาย หรือไม่ละลาย ส่วนใหญ่ไม่มีผลต่อแผลเป็นที่เกิดขึ้น เพียงแต่ระยะเวลาของไหมที่ใช้ในการดึงรั้งแผลแตกต่างกัน ส่วนใหญ่จะเป็นแผลเป็นเพราะปัจจัยอื่นมากกว่า เช่น การติดเชื้อ แรงตึงบริเวณผิวที่เย็บ ไหมละลายพวกนี้อาจจะทำให้ขอบแผลค่อนข้างจะแดงและแดงอยู่นาน บางคนจึงกังวล
ขณะที่การนวดบริเวณแผลเป็น เป็นการกระตุ้นให้แผลนุ่มขึ้น แต่ควรจะใช้มอยเจอร์ไรเซอร์และโลชั่นมาช่วยนวดและทาด้วยเพื่อให้แผลเป็นชุ่ม ชื่น จะได้นุ่มได้ไวขึ้น แบนราบได้เร็วขึ้น และทำให้อาการปวดจากแผลเป็นเหล่านี้ลดลงไปได้ด้วย อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังในการนวดก็คือ นวดในแผลเปิด แผลอาจปริขึ้นมา หรือบวมขึ้นมา หรือแพ้โลชั่นก็ต้องหยุด แผลบางตำแหน่งเช่น ตำแหน่งหน้าอก หู หัวไหล่ การกระตุ้นตรงนั้น อาจทำให้เกิดแผลนูนขึ้นมาได้ ขณะเดียวกันกลุ่มคนไข้ที่มีโอกาสเกิดเป็นแผลนูนอยู่แล้ว ก็ไม่แนะนำให้นวด ฉะนั้นก็ต้องพิจารณาให้ดีเช่นเดียวกัน ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะต้องให้นวดเสมอไป
ท้ายสุดแล้ว นพ.ธรรมนูญ แนะนำการป้องกันและทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดแผลเป็นนูนก็คือ ต้องได้รับการรักษา หรือ ผ่าตัดอย่างดี อย่าให้เกิดการติดเชื้อ ถ้าเป็นคนไข้ที่มีปัญหาและมีความเสี่ยงสูง อย่างเช่น เคยมีปัญหาเรื่องแผลเป็นมาก่อน ก็ต้องใช้วิธีวัสดุปิดแผลป้องกันไว้ก่อน
* ขอบคุณบทความจาก : http://www.bambinina.com/post/%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94/