Make Appointment

ทำอย่างไร..เมื่อหูดับ

19 Dec 2016 เปิดอ่าน 2256

 โรคหูดับฉับพลัน หมายถึง การได้ยินลดลงทันที เราสามารถสังเกตได้ถึงความผิดปกตินั้น อาจเพียงเล็กน้อยหรือรุนแรงก็ได้
       
       สาเหตุที่พบบ่อยเกิดจาก ขี้หูอุดตัน หรือ หูชั้นกลางอักเสบ อีกสาเหตุที่พบได้ อันได้แก่ ประสาทหูดับฉับพลันแบบไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งถือว่าเป็นภาวะเร่งด่วนทางหู หากผู้ป่วยมาพบแพทย์ภายใน 2 สัปดาห์ หลังมีอาการ โอกาสที่หายจากโรคจะมีมากขึ้น
       
       อย่างไรก็ดี ชนิดไม่ทราบสาเหตุอาจมีความสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัส เช่น มีอาการหวัดนำมาก่อน หรือ การขาดเลือดไปเลี้ยงหูชั้นในแบบเฉียบพลัน ส่วนใหญ่มักพบผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ทำให้การไหลเวียนของเลือดไม่ปกติ หรืออาจเป็นที่การเปลี่ยนแปลงความดันอากาศอย่างรวดเร็ว เช่น ดำน้ำ รวมถึงการสัมผัสเสียงดังอย่างฉับพลัน
       
       ฉะนั้น การหาสาเหตุจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งแพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น ตรวจเลือด ตรวจการได้ยิน และตรวจคลื่นสมองดูทางเดินของเส้นประสาท เป็นต้น เพื่อวินิจฉัยหาโรคทีี่เป็นสาเหตุ หรือโรคที่สัมพันธ์กับภาวะที่มีผลต่อระบบหลอดเลือด เช่น เบาหวาน ไขมันสูง โรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง หรือเนื้องอกของเส้นประสาทหูซึ่งพบน้อยกว่า 1%
       
       การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุที่พบ สำหรับหูดับฉับพลันแบบไม่ทราบสาเหตุ แพทย์จะให้ยาต้านการอักเสบของประสาทหูในช่วงแรก ทั้งนี้ จะหายหรือไม่นั้น ยังขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของประสาทหูเสื่อม และโรคประจำตัวของผู้ป่วย ดังนั้น แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยพักในช่วงแรก และไม่ออกกำลังกายหักโหม
       
       แต่ในรายที่ไม่สามารถฟื้นการได้ยินกลับมาเท่าหูข้างปกติ แพทย์จะแนะนำให้ใส่เครื่องช่วยฟังเพื่อให้ได้ยินดีขึ้น รวมถึงการควบคุมโรคประจำตัวให้อยู่ในระดับปกติ เช่น เบาหวาน หรือความดันโลหิต ก็สามารถป้องกันให้อาการคงที่ได้
       
       อย่างไรก็ดี สิ่งที่ผู้ป่วยควรป้องกันไม่ให้ประสาทหูเสื่อมมากขึ้น ได้แก่ หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีการใช้เสียงดังมาก หรือ การใช้หูฟัง หากเป็นโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิต ควรควบคุมโรคให้อยู่ในระดับปกติ และไม่ควรซื้อยารับประทานเอง เนื่องจากยาบางชนิดมีพิษต่อประสาทหู รวมทั้งควรหมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ โอกาสที่จะเป็นก็น้อยลง

 

 

ผศ.พญ.ศิริพร ลิมป์วิริยะกุล
ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา

ขอบคุณบทความจาก : http://manager.co.th/QOL/viewNews.aspx?NewsID=9580000076668