โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เป็นโรคที่พบบ่อย โดยทุกๆ 6 วินาทีจะมีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง 1 ราย และพบว่ามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งทำให้เกิดอัมพฤกษ์หรืออัมพาตตามมา
โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) แบ่งได้ 2 ประเภทหลัก คือ โรคหลอดเลือดสมองตีบ/อุดตัน และหลอดเลือดสมองแตก ทั้ง 2 ประเภททำให้เนื้อสมองขาดเลือด และเซลล์สมองตายในที่สุด การรักษาในปัจจุบันด้วยยาสลายลิ่มเลือดในกลุ่มผู้ป่วยหลอดเลือดสมองอุดตันพบว่า ช่วยเปิดหลอดเลือด ลดปริมาณเซลล์สมองที่ตายอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งในบทความนี้จะเน้น โรคหลอดเลือดสมองตีบ/อุดตัน ในแง่ สาเหตุ ความเสี่ยง อาการ และการรักษา
สาเหตุโรคหลอดเลือดสมองตีบ/อุดตัน
แบ่งได้ 3 สาเหตุหลัก คือ
- เกิดจากปัญหาของหลอดเลือดเอง เช่น มีไขมันเกาะบริเวณหลอดเลือดสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จนตีบหรืออุดตัน พบได้บ่อยในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น โรคความดันโลหิตสูง, โรคเบาหวาน, โรคไขมันในเลือดสูง หรือสูบบุหรี่ สาเหตุที่พบได้รองลงมา เช่น ภาวะหลอดเลือดอักเสบ
- ปัญหาจากลิ่มเลือด ในตำแหน่งที่มีไขมันสะสมในหลอดเลือดบริเวณอื่น หรือลิ่มเลือดจากตำแหน่งอื่น โดยเฉพาะจากหัวใจ หลุดมาอุดตันในหลอดเลือดสมอง
- ปัญหาจากความเข้มข้นของเลือดผิดปกติ ทำให้มีลิ่มเลือดอุดตันได้ง่าย
ความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง
ปัจจัยเสี่ยงที่สัมพันธ์กับโรคหลอดเลือดสมองมีหลายสาเหตุ ดังต่อไปนี้
- ปัจจัยเสี่ยงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น เพศชายโอกาสเกิดมากกว่าเพศหญิง, อายุมากขึ้นคือตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป, มีประวัติในครอบครัวโดยเฉพาะญาติสายตรง
- ปัจจัยเสี่ยงที่พบบ่อย เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคอ้วน ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โรคลิ้นหัวใจผิดปกติ โรคความเข้มข้นของเลือดผิดปกติ การสูบบุหรี่
ซึ่งเราสามารถควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่พบบ่อยข้างต้นเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกกรรม การทานอาหาร การออกกำลังกาย งดสูบบุหรี่ และตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อตรวจหาปัจจัยเสี่ยงและรีบทำการรักษา
อาการของโรคหลอดเลือดสมอง
มักเป็นฉับพลัน อาจหายเองได้ถ้ามีหลอดเลือดอุดตันชั่วคราว (Transient ischemic attack; TIA) ซึ่งเป็นอาการเตือนที่ควรรีบมาโรงพยาบาล เนื่องจากอาจมีหลอดเลือดอุดตันถาวรตามมาได้ อาการขึ้นอยู่กับตำแหน่งสมองที่เสียหาย ถ้ามีอาการดังกล่าวเหล่านี้ควรรีบมาพบแพทย์
- อาการที่พบได้บ่อย คือ อาการอ่อนแรง ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด จำได้ง่ายๆ คือ Face Arm Speech Time (FAST)
- อาการอื่นๆ ที่สามารถพบได้ เช่น เวียนศีรษะ บ้านหมุน เดินเซ พูดไม่เป็นภาษา เห็นภาพซ้อน เห็นภาพไม่ชัดครึ่งซีก ชา เป็นต้น
การรักษา
ผู้ป่วยที่มีอาการสงสัยโรคหลอดเลือดสมอง ควรมาพบแพทย์ให้เร็วที่สุดเนื่องจากปัจจุบันมีการรักษาด้วยยาสลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดดำภายใน 4.5 ชั่วโมง เป็นการรักษาตามมาตรฐานที่เรียกว่า “Stroke fast track หรือทางด่วนโรคหลอดเลือดสมอง ” โดยทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆในระยะเวลาอันรวดเร็ว หลังจากนั้นผู้ป่วยจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดในหอผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง หรือหอผู้ป่วยวิกฤตเพื่อติดตามสัญญาณชีพ และอาการทางระบบประสาท ได้รับยาต้านเกล็ดเลือด หรือยาต้านการแข็งตัวของเลือดตามความเหมาะสม และตรวจหาปัจจัยเสี่ยงตามที่กล่าวข้างต้น และทำการรักษา ประเมินความแข็งแรงด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด จัดอาหารโดยนักโภชนาการ และเมื่อพร้อมกลับบ้าน ทีมผู้ดูแลจะวางแผนการรักษาต่อเนื่องและตรวจติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอ
ขอบคุณบทความจาก : http://www.bangkokhospital-chiangmai.com/th/news/2016/March/stroke-1