คนไข้ : คุณหมอครับ ผมมีอาการเหนื่อยง่าย และบางครั้งแน่นหน้าอกตอนล้างรถ ผมจะเป็นโรคหัวใจมั้ยครับ
คุณหมอ : มีโอกาสครับ แต่ควรตรวจเพิ่มเติมเพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและเริ่มรักษาอย่างถูกต้องครับ
นี่คือสถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในการสนทนาระหว่างผู้ป่วยและแพทย์โรคหัวใจที่พบได้บ่อยในเวชปฏิบัติ
ปัจจุบัน พฤติกรรมการบริโภคอาหารของคนไทยเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม วัฒนธรรมการบริโภคอาหารแบบตะวันตก ทำให้คนไทยกินอาหารที่ประกอบด้วยไขมัน แป้ง และน้ำตาลมากขึ้น ซึ่งเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง ทำให้เกิดโรคอ้วน และไขมันสะสมในร่างกาย ซึ่งโรคดังกล่าวเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดหัวใจตีบตามมา
โรคเส้นเลือดหัวใจขาดเลือด มีสาเหตุมาจากการอุดตันของไขมันภายในเส้นเลือด เมื่อมีการอุดตันเกิน 70% ของเส้นผ่านศูนย์กลาง จะทำให้ปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจน้อยลง ทำให้ผู้ป่วยเริ่มแสดงอาการของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ คือมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม และเหนื่อยง่ายเวลาออกกำลังกายหรือทำงานที่หนักขึ้น ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาการก็จะเป็นมากขึ้น และกล้ามเนื้อหัวใจทำงานน้อยลง นำไปสู่โรคหัวใจล้มเหลวได้ในที่สุด
เมื่อท่านมีอาการดังกล่าว แนะนำว่าควรรีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย ซึ่งวิธีการวินิจฉัยนั้น แพทย์จะทำการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจก่อนเพื่อประเมินเบื้องต้นว่ามีลักษณะกราฟหัวใจผิดปกติ ที่บ่งบอกถึงเส้นเลือดหัวใจขาดเลือดหรือไม่ รวมถึงการตรวจด้วยวิธีเดินสายพาน และอัลตราซาวด์หัวใจ เพื่อวินิจฉัยและ ประเมินความรุนแรงของโรคเส้นเลือดหัวใจขาดเลือดว่ามีความจำเป็นต้องรักษาด้วยการสวนเส้นเลือดหัวใจเพื่อขยายรอยตีบและใส่ขดลวดหรือไม่ หรือสามารถให้การรักษาด้วยยาเพื่อบรรเทาอาการไปก่อนได้ ฉะนั้นหากผู้ป่วยท่านใดที่เริ่มมีอาการแน่นหน้าอกเวลาออกแรง หรือมีอาการหายใจไม่อิ่ม เหนื่อยง่าย ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง แต่หากท่านใดยังไม่มีอาการแสดงดังกล่าว ก็ควรป้องกันเอาไว้ก่อน ด้วยการหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และงดสูบบุหรี่ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ท่านมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และห่างไกลจากโรคเส้นเลือดหัวใจขาดเลือด
นพ . สุกฤษฎิ์ คูวัฒนเธียรชัย
ขอบคุณบทความจาก : http://m.naewna.com/view/columnonline/26547