นัดพบแพทย์

บิ๊กอาย : ความสวย...อาจทำให้ตาบอด

22 Sep 2016 เปิดอ่าน 2161

บิ๊กอายแฟชั่นมาแรงจากเกาหลี ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงคนทำงานเพื่อเพิ่มสีสันในดวงตา และยังทำให้ตากลมโตบ้องแบ๊วยิ่งขึ้น

          ความนิยมของแฟชั่นบิ๊กอาย  ทำให้คอนแทคเลนส์ชนิดนี้ซื้อหาได้ง่าย  ไม่จำกัดแค่เพียงการซื้อขายในร้านขายยาเท่านั้น  แต่ยังหาได้ตามท้องตลาดนัดแผงข้างทาง  จนถึงกระทั่งธุรกิจแบบขายตรงมีให้เลือกหลายขนาด หลากสี ในราคาหลากหลายตั้งแต่ 50 บาท ไปจนถึง 500 บาท

           ยิ่งไปกว่านั้น บิ๊กอายที่เกลื่อนตามท้องตลาดยังถูกโฆษณาอายุการใช้งานที่นานกว่า 1 ปี  ทำให้เกิดข้อสงสัยถึงคุณภาพ และผลข้างเคียงของสายตา

          จะเกิดอะไรขึ้นกับ “ดวงตา” ผู้สวมใส่ “บิ๊กอาย” เพราเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใกล้ชิดกับอวัยวะที่อ่อนไหวมากที่สุด

          ศ.พญ.วณิชา ชื่นกองแก้ว หัวหน้างานสาขาวิชาโรคประสาทจักษุ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์  ศิริราชพยาบาล  ไขคำตอบว่า บิ๊กอาย เป็นคอนแทคเลนส์ชนิดหนึ่งที่ใหญ่กว่าเลนส์ปกติ โดยปกติคอนแทคเลนส์สายตาถ้าเป็นรายเดือนวัสดุจะแข็งกว่ารายวัน  แต่ถึงจะนิ่มหรือแข็งก็ตามก็เป็นตัวกีดขวางไม่ให้ดวงตาได้รับสารอาหารและไม่ได้รับออกซิเจนเท่าที่ควร เนื่องจากปกติคนเราจะมีน้ำตาเคลือบตาอยู่ซึ่งน้ำตานี้เองเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของสารอาหารที่เป็นประโยชน์และมีภูมิคุ้มกันที่ใช้ป้องกันเชื้อโรคต่างๆ แต่ถ้าเราใช้คอนแทคเลนส์จะมีการบดบังไม่ให้น้ำตาเข้าไปหล่อเลี้ยงโดยเฉพาะส่วนสำคัญคือตาดำ

          ผลตามมาคือ  เมื่อกระจกตาขาดออกซิเจนและสารอาหารที่ทำให้เกิดภาวะอ่อนแอของกระจกตา ขาดภูมิคุ้มกัน  เชื้อโรคที่มีอยู่แล้วในตา  ซึ่งตามปกติจะไม่ก่อให้เกิดโรคอะไร จะสามารถเข้าไปทำให้กะจกตาอักเสบและเป็นแผล ในที่สุดก็อาจทำให้เกิดกระจกตาทะลุ  และอาจเกิดการอักเสบติดเชื้อในลูกตาได้

           “ ที่ผ่านมาเราเจอผู้ป่วยหลายรายแล้วที่มีการอักเสบติดเชื้อในลูกตา  บางรายมีการติดเชื้อที่รุนแรง  หรือการติดเชื้อในกระจกตาทะลุเข้าไปในลูกตา น้ำในตาจะเป็นสารอาหารที่ดีของเชื้อโรค  ทำให้เชื้อรุกรามได้เร็ว  แพทย์จึงต้องรักษาโดยการผ่าตัดเอาลูกตาออก  เพราะหากปล่อยไว้เชื้อจะกระจายเข้าสู่สมองได้ ”

           คุณหมอวณิชาเล่าว่า ผู้ป่วยจำนวนมากที่เข้ามารักษาจากอาการติดเชื้อในลูกตามีทั้งเกิดจากใส่คอนแทคเลนส์แบบรายเดือนและเกิดจากการใส่บิ๊กอาย แต่ผู้ที่สวมใส่บิ๊กอายเสี่ยงติดเชื้อโรคได้มากกว่า

          ซึ่งปกติแล้วแพทย์จะแนะนำให้กลุ่มผู้ใส่คอนแทคเลนส์ไม่ควรใส่เกินวันละ 8 ชั่วโมง  แต่ในบางรายอาจใส่เกิน วันละ 8 ชั่วโมง หรือใส่ค้างคืน เพราะลืมถอด ทำให้เกิดภาวะขาดอาหาร และขาดออกซิเจนแต่บิ๊กอายจะทำให้เกิดภาวะได้มากกว่าคอนแทคเลนส์ธรรมดา เพราะนอกจากจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าทำให้น้ำตาเข้าไปได้ยากและเกิดการติดเชื้อได้ง่ายกว่าแล้ว  คอนแทคเลนส์ขนาดใหญ่ถ้าสวมใส่ไม่เหมาะสมยังทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของลูกตาได้น้อย ซึ่งนั่นก็หมายถึงการแลกเปลี่ยนของสารอาหารและอากาศก็ยิ่งน้อยลงไปด้วย

          “สิ่งที่เราพยายามจะแนะนำผู้ป่วยในเรื่องการใช้คอนแทคเลนส์ คือ  การรักษาความสะอาดและการใช้ให้ถูกต้อง  แต่ในปัจจุบันเด็กวัยรุ่นหรือผู้ป่วยสามารถซื้อคอนแทคเลนส์ได้ด้วยตนเอง  โดยไม่ได้รับคำแนะนำเรื่องการใช้ที่ถูกต้องก็จะต้องเกิดปัญหาตามมา  และเมื่อเกิดปัญหาก็จะไม่สามารถไปปรึกษา  ผู้ขายได้เพราะบางคนอาจไม่มีความรู้มากพอ  เมื่อมาปรึกษาจักษุแพทย์ก็ช้าเกินไป  จึงต้องฝากผู้ปกครองด้วยว่าช่วยกันดูแล ซึ่งในบางประเทศเริ่มมีมาตราการควบคุมการขายมากขึ้น โดยซื้อจากผู้มีใบอนุญาตประกอบการแว่นหรือคอนแทคเลนส์โดยตรง  ซึ่งเป็นผู้ได้รับการอบรมหรือมีความรู้อย่างถูกต้องจะมีการแนะนำวิธีการใช้อย่างถูกต้อง และสามารถแนะนำเมื่อเกิดปัญหาได้

* ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.familynetwork.or.th/content/%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%AA%E0%B8%AA