Make Appointment

5 วิธีบริหารความ Sexy เพิ่มดีกรีรัก

24 Dec 2016 เปิดอ่าน 1649

แล้ววันเดือนก็เคลื่อนคล้อย พารักลูกมาสู่ปีที่ 24 เดือนนี้นอกจากเป็นเดือนที่รักลูกอุแว้บนแผงนิตยสารแล้ว ยังเป็นเดือนที่มีหัวใจและดอกไม้เกลื่อนเมือง มองไปทางไหนก็เห็นโลกสดใสเป็นสีชมพู ด้วยบรรยากาศของความรักในวันวาเลนไทน์


บรรยากาศก็โรแมนติก ลมรักก็อบอวลขนาดนี้เสวนาข้างหมอนเลยอยากชวนคุณพ่อคุณแม่มาเพิ่มดีกรีความรักให้สดใสหวานชื่นเหมือนวันแรกรัก ด้วยหลากหลายเทคนิคเพิ่มความเซ็กซี่ให้ตัวเอง เรื่องนี้สำคัญยังไง จะช่วยเสริมดีกรีรักได้แค่ไหน และจะทำได้อย่างไร 3 คอลัมนีสต์ประจำคอลัมน์นี้เตรียมพร้อมอยู่แล้วค่ะ


ตามความคิดของผมแล้ว (ขอย้ำนะครับว่าเป็นมุมมองส่วนตัวของผมเอง) การที่คุณพ่อคุณแม่จะถือโอกาสในช่วงปีใหม่นี้ ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีความเซ็กซี่มากขึ้น อย่างน้อยก็ในสายตาของกันและกัน ผมว่าน่าจะเป็นของขวัญอันล้ำค่าที่สุดที่ทั้งสองฝ่ายอยากได้ ทั้งนี้จะขอเรียนแนะนำ 5 วิธีไว้ให้ลองปรับใช้กันดู

1. ลดน้ำหนัก นานเท่าไรแล้วครับที่ไม่ได้ดูแลสุขภาพตัวเอง หนุ่มสาวที่เซ็กซี่ชวนมองแม้หน้าตาจะไม่หล่อไม่สวยระดับดารา แต่ที่เหมือนกันคือทุกคนล้วนแต่มีรูปร่างสวยงาม เพราะจะบ่งบอกถึงการรู้จักเอาใจใส่ตัวเอง และการมีสุขภาพดี ปลุกเล้าอารมณ์ของผู้พบเห็นให้อยากอยู่ใกล้ชิด ฉะนั้นจะเริ่มควบคุมอาหาร ออกกำลังกายอาจเข้าฟิตเนสหรือสปาก็ได้ครับ เพราะถ้าตัวเราเองยังไม่ดูแลเลย ก็จะไปหวังให้ดูแลคู่ชีวิตของเราได้อย่างไรเล่าครับ นึกย้อนไปถึงการนัดพบกันครั้งแรกสิครับ เราพยายามทำตัวให้ดูดีขนาดไหน


2. ปรับปรุงการแต่งกาย ให้รางวัลตัวเองด้วยการซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ๆ ให้นำสมัยและเข้ากับบุคลิกความเป็นตัวคุณเองมากที่สุด ยกเสื้อผ้าเก่าๆ เชยๆ ออกจากตู้เสื้อผ้าได้แล้วครับ หันมาบำรุงผิวพรรณตัวเอง แม้แต่คุณผู้ชายก็ควรรู้จักผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า และเรียนรู้จะใช้มัน อย่าไปเสียดายหรือรำคาญกับขั้นตอนอันจุกจิกที่ต้องเพิ่มขึ้นมา การบำรุงผิวใช้เวลาไม่เกิน 5 - 10 นาที และถ้าทุกวันก็จะชินไปเอง แล้วคุณจะพบว่าตัวเองดูหนุ่มและสาวขึ้นกว่าวัย อาจใช้น้ำหอมเพื่อเสริมเสน่ห์และบุคลิกด้วยก็ยิ่งดีครับ


3. ยิ้มแย้ม กระฉับกระเฉง เสน่ห์ความเซ็กซี่นั้นถ้าเราไม่ได้เกิดมาหน้าตาทรวดทรงเหมือนกับ แองเจลิน่า โจลี่ หรือ แบรต พิตต์ แล้ว เราจำเป็นต้องสร้างมันขึ้นมาเอง ทำอย่างไรน่ะหรือครับ ทุกเช้าตอนไปทำงานพบปะผู้คน ลองเริ่มง่ายๆ โดยเป็นฝ่ายยิ้มและกล่าวคำทักทายผู้อื่นก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกล่าวชม เช่น “ไปทำอะไรมา วันนี้ทำไมสวยจัง” แบบนี้แล้วใครบ้างล่ะครับที่จะไม่อยากอยู่ใกล้ชิดคุณ ลองหัดทำอะไรให้เร็วขึ้น กระฉับกระเฉง เช่น เดินให้เร็วขึ้นเล็กน้อย คุณจะดูสดใส เซ็กซี่ และมีชีวิตชีวามากครับ


4. เอาใจคู่รักของคุณ ไม่ใช่เรื่องยากหรือต้องฝืนใจทำอะไรที่ลำบากหรอกครับ แค่บางวันที่คุณทำอะไรพิเศษให้เขา เช่น ในวันเกิด จับเขานั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร ดูคุณสาละวนกับการเสิร์ฟอาหารที่คุณปรุงเป็นพิเศษ ในชุดอยู่บ้านหลวมๆ สบายๆ แต่ดูเซ็กซี่อาจจุดเทียนไว้กลางโต๊ะพร้อมหรี่ไฟเล็กน้อย คุณพ่อก็เอื้อมไปปิดประตูรถให้คุณแม่ทุกครั้งที่จะขึ้นหรือลงรถ ก่อนออกไปทำงานอาจหอมแก้ม หรือจูบลากันทุกครั้ง รวมทั้งกล่าวลาตรีสวัสดิ์ก่อนนอน


แหม! ทำเหมือนตอนจีบกันใหม่ๆ ไงครับ จะเป็นอะไรไป


5. ทำกิจกรรมส่วนตัวร่วมกันบ้าง หาวันว่างๆ เอาลูกไปฝากไว้กับคุณย่าคุณยาย แล้วออกไปเที่ยวใช้เวลานอกบ้านด้วยกัน ทานข้าวในร้างหรูๆ เดินซื้อของด้วยกัน ถ้ามีเวลามากพอก็อาจไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ บางครั้งบรรยากาศของห้องพักสวยๆ ริมทะเลอาจจะจุดความเซ็กซี่ให้ จนคุณไม่อยากลุกออกจากเตียงไปไหนอีกเลย


“เมื่อยามรักน้ำต้มผักยังว่าหวาน แต่ยามชังแม้แต่น้ำตาลยังว่าขม” คงเป็นคำโบราณที่ยังไม่โบราณในความหมายและยังนำมาประยุกต์ใช้ได้สำหรับทุกยุคทุกสมัย ยามรักกันใหม่ๆ อะไรก็เห็นว่าดี พออยู่ไปนานๆ ปี ความเบื่อหน่ายก็เข้ามากวนใจคุณพ่อบ้านแม่บ้านเองคงอาจต้องขึ้นมาสำรวจตัวเองเพื่อเพิ่มความกระฉับกระเฉงให้กับตนเอง และแอบเพิ่มความกระชุ่มกระชวยให้กับคู่รักคู้ครองกันบ้าง ถ้าไม่รู้จะใช้วิธีไหนดี หมอขอเสนอวิธีปฏิบัติแบบง่ายๆ สัก 5 ข้อนะครับ

1. ออกกำลังกายแบบแอโรบิก (aerobic exercise) เช่น วิ่งเหยาะ ว่ายน้ำ เดินเร็ว ขี่จักรยาน สัปดาห์ละ 3 - 4 วัน วันละ 30 - 40 นาที เพื่อสุขภาพปอดและหัวใจการไม่เป็นคนขี้โรค เป็นหวัด เป็นไข้ง่ายๆ จะทำให้คุณดูแข็งแรง ไม่ป่วยไข้ได้ง่ายจะเพิ่มเสน่ห์ให้กับคุณอย่างมาก ลองนึกดูว่าผู้ชายคนหนึ่งนั่งสูดน้ำมูกหรือไอบ่อยๆ หรือผู้หญิงที่สง่าดุจนางพญานั่งจาม คงหมดเสน่ห์ไปเยอะใช่ไหมครับ นอกจากนี้ แอโรบิกยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดทุกระบบของร่างกาย ช่วยให้หน้าตาสดชื่น อารมณ์ดี รวมถึงอารมณ์ทางเพศก็ดีไปด้วย


2. ออกกำลังกายแบบอแนโรบิก (anaerobic exercise) เช่น เล่นเวท (weight training) หรือเรียกง่ายๆ ว่าเล่นกล้ามนั่นแหละ เพราะร่างกายจะดูมีกล้ามสัดส่วนกระชับ ดูกระฉับกระเฉง การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อท้อง เช่น การทำซิทอัพ (sit-up exercise) จะช่วยลดความพลุ้ยของพุงลงไป ยิ่งความเป็นอาเสี่ยอาซิ้มน้อยลงเท่าไร ความเซ็กซี่ก็มากขึ้นเท่านั้นครับ คุณสมบัติ เมทะนี พระเอกตลอดกาลเคยให้สัมภาษณ์ว่า การมีกล้ามเนื้อสวย ช่วยให้เวลาสวมใส่เสื้อผ้าชุดไหนก็ดูดี ดูหล่อ ดูสวยไปหมด


3. เน้นความสะอาด โกนหนวดเคราให้เรียบร้อย ทั้งคุณผู้ชายคุณผู้หญิง หรือถ้าคุณพ่อบ้านจะปลูกไว้กันมดแดงมาแฝงพวงมะม่วง หรือกันหนุ่มๆ มาจีบลูกสาวล่ะก็ คงต้องตัดแต่งให้ดูเรียบร้อยดูสะอาด อาบน้ำท่าความสะอาดบ่อยๆ ด้วยสบู่กลิ่นอ่อนๆ จะทำให้ร่างกายสดชื่น ทั้งคนข้างๆ ก็พลอยสดชื่นไปด้วย เล็บตัดให้สั้นเตียนให้ดูสะอาด แต่ไม่ต้องตัดสั้นเกินไปจนถึงจมูกเล็บ เพราะจะทำให้ติดเชื้อเป็นเล็บขบได้ง่าย


แต่ถ้าคุณแม่บ้านจะแต่งเพื่อความสวยงามก็อย่าตัดให้ลึกจนเกินไป และพยายามใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดก่อนและหลังตัดทุกครั้ง เสื้อผ้าก็ต้องซักและผึ่งแดดให้สะอาด โดยเฉพาะชุดชั้นใน ถุงเท้า รองเท้า จะมีกลิ่นได้ง่าย อย่าลืมว่าคู่รักของคุณไม่ได้อยากดมกลิ่น อับ กลิ่นปลาหมึกตลอดทุกวันเวลาหรอกนะ


4. วางแผนเวลาของคุณให้ดี นอกจากต้องทำงานอย่างมืดฟ้ามัวดินแล้ว คนเราต้องเผื่อเวลาสำหรับคู่รักคูครองด้วย การมีเวลาให้กัน ปรึกษาเรื่องราวชีวิตกันจะทำให้เข้าใจกันมากขึ้น ลดความตึงเครียดในครอบครัวได้มาก การมีกิจกรรมครอบครัว เช่น ไปเที่ยวตากอากาศ หรือการมีกิจกรรมนันทนาการอื่นๆ จะช่วยเพิ่มความแน่นแฟ้นในครอบครัวมากยิ่งขึ้น บ้านไหนที่ไม่มีเวลาให้กันจริงๆ เลยอย่างน้อยก็ควรหาเวลากินข้าวด้วยกันวันละมื้อก็ยังดี อย่าลืมว่า “TO EAT IS TO LOVE” คนเรามักจะรู้สึกดี ผูกพันกับคนที่เรากินข้าวด้วย


5. ใส่ใจความรู้สึกของกันและกัน แม่บ้านส่วนใหญ่มักจะรู้สึกผ่อนคลาย เป็นตัวของตัวเองในบ้านที่มีคุณพ่อบ้านที่ใส่ใจ ตามใจ เอาใจ ต่างกับบ้านที่คุณพ่อบ้าน หยุมหยิม ขี้บ่น จุกจิก จู้จี้ อารมณ์เซ็กซี่ของคุณแม่บ้านกระเจิงหมดเลยนะครับ ถ้าเจอคุณพ่อบ้านอารมณ์แบบนี้ คุณแม่บ้านก็เช่นเดียวกัน แม้ว่าความละเอียดลออจะเป็นลักษณะเฉพาะของผู้หญิงก็ตาม อย่าไปละเอียดเกินพอดี โดยเฉพาะถ้าคุณพ่อบ้านทำสิ่งที่คาดหวังได้ละเอียดเพียงพออยู่แล้ว อย่าลืมว่าผู้ชายคนหนึ่งต้องการแต่งงานกับแม่คุณ ไม่ใช่คุณแม่นะครับ



มาเริ่มเปลี่ยนแปลงกันเสียทีดีไหมครับ ทั้ง 2 ฝ่ายรู้สึกสบายๆ ชิล ชิลรับลองลูกหัวปีท้ายปี ไม่มีเหงาครับ


คนที่ sexy ไม่ได้หมายความว่าพอเพศตรงข้ามเห็นเป็นระงับอารมณ์ไม่อยู่ ต้องปรี่เข้าปล้ำ แต่หมายถึงคนที่ให้อารมณ์อยากเห็น อยากอยู่ใกล้ อยากรู้จัก อยากเป็นเพื่อน อยากได้เป็นคู่ครอง อยากให้เป็นพ่อหรือเป็นแม่ของลูก ฯลฯ หรือกล่าวโดยสรุปคือคนที่ให้อารมณ์บวก เรียกว่าคนมีเสน่ห์


ความมีเสน่ห์มีทั้งที่เป็นพรสวรรค์และพรแสวง ในเมื่อเราเกิดมาแล้ว พรสวรรค์ถูกกำหนดแล้วแก้ไม่ได้ แต่พรแสวงเป็นสิ่งที่เราเสริมสร้างให้เกิดขึ้นได้ครับ เสน่ห์ที่เกิดจากพรแสวงมี 2 ประเภท


ประเภทที่หนึ่ง เสน่ห์ทางกาย เป็นรูปลักษณ์ภายนอกที่สวรรค์แต่งให้เป็นเสน่ห์ ไม่จีรัง เช่น ผู้ชายที่เข้าวัยทอง ผมบนหัวเหลือบางเต็มทีก็โกนเสียเลยให้กลายเป็น “โล้นเสน่ห์” ผู้หญิงนั้นแน่นอนต่างก็มั่นใจว่าเสน่ห์ที่จะทำให้ผู้ชายมองคือ หน้าอก จึงยอมเจ็บไป “ตบนม” ด้วยความเชื่อว่ามันจะต้องตั้งตระหง่านขึ้นมาได้


ประเภทที่สอง เสน่ห์ทางจิตใจ เป็นเรื่องทางบุคลิกภาพที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ เป็นเสน่ห์ถาวร ที่คนเราพึงกระทำโดยเฉพาะคนที่มีคู่ทั้งหลาย

1. เป็นคนที่มีอารมณ์ขัน คนที่มีอารมณ์ขันจะมองโลกในแง่ดี ไม่เครียด เช่น เวลารถติด แทนที่จะนั่งหงุดหงิดก่นด่ารัฐบาล ลองมองไปรอบๆ จะเห็นอะไรที่ทำให้เราเกิดอารมณ์ขัน เป็นต้นว่าพวกวรรณกรรมท้ายรถ เช่น เห็นงานแล้วเป็นลม เห็นนมแล้วสู้ตาย


2. เป็นคนมีชีวิตชีวา คนที่มีชีวิตชีวาไม่จำเป็นต้องเป็นคนสวย แต่เป็นคนที่เป็นตัวของตัวเอง เป็นธรรมชาติไม่เก๊ก ไม่เกร็งหรือไม่เสแสร้ง ดูบริสุทธิ์และจริงจัง หัวเราะเวลาขำ ร้องไห้เวลาเสียใจ สำรวมแต่ไม่เก็บกด


3. เป็นผู้ฟังที่ดีในการสนทนา การนิ่งฟังหรือพูดแต่น้อยๆ จะทำให้เข้าใจการสนทนาและคู่สนทนาได้ดี


4. เป็นผู้เดินทางสายกลาง ไม่สุดโต่ง คนที่เดินทางสายกลางเวลาทำอะไรก็จะทำแต่พอดีไม่มากเกินไป และไม่น้อยเกินไป เหมาะสมกับตัว เช่น ไม่ลุกขึ้นแต่งตัวเกาะอกเปิดสะดือ ทั้งๆ ที่สะดือจุ่นและดำปี๋ให้เป็นที่อนาถแก่ผู้พบเห็น


5. เป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ได้ ไม่ปล่อยให้อารมณ์พาไป เหมือนนางร้ายในละครไทย หน้าตาถมึงทึง หรือ กรี๊ดกร๊าด จนรู้ตั้งแต่นาทีแรกว่าเป็นนางร้าย แต่เป็นคนที่ทำอะไรใช้สมองง่ายๆ



5 ข้อเท่านี้คุณก็จะกลายเป็นคนมีเสน่ห์พึงใจคู่รักไปแสนนาน หรือถ้ายังไม่มีคู่ชีวิตเป็นตัวเป็นตน เสน่ห์ของคุณก็จะล้นเหลือจนรับโทรศัพท์ไม่ไหว.

 

นพ.พูนศักดิ์ สุชนวณิชย์, นพ.สมชาย มาลสุขุม, พิชชากร

ขอบคุณบทความจาก : http://board.narak.com/topic_light.php?No=110130