นัดพบแพทย์

การเลือกใช้ซิลิโคน เพื่อผ่าตัดเสริมหน้าอก

17 Jan 2017 เปิดอ่าน 1804

ความงามกับผู้หญิงเป็นของคู่กัน ปัจจุบันเรื่องของการทำศัลยกรรมก็เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น การผ่าตัดเพื่อเสริมแต่ง ความงามตามส่วนต่างๆ ของร่างกายก็เลยกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว โดยเฉพาะการผ่าตัดเสริมหน้าอกนั้นในขณะ นี้กำลังเป็นที่นิยมทั่วโลก และมีผู้นิยมทำกันค่อนข้างมากทีเดียว

แพทย์หญิงพูนพิศมัย สุวะโจ ให้ความเห็นถึงการทำศัลยกรรมในปัจจุบันว่า หมอมองว่าคนให้ความสนใจในการทำศัลยกรรมมาตลอด เพียงแต่เมื่อก่อนการเข้าถึงข้อมูลมีความจำกัดเพียงการ บอกต่อและพบแพทย์โดยตรง ทำให้ความเข้าใจมีน้อย จึงไม่กล้าที่จะทำผ่าตัด แต่ในปัจจุบันยุคข้อมูลข่าวสารทั่วถึง มากขึ้นและง่ายกว่าแต่ก่อนมาก และยังมีผู้ที่ทำศัลยกรรมแล้วกล้าที่จะบอก คนจึงกลัวน้อยลงและยอมรับกันมากขึ้น

“แต่ในขณะเดียวกัน ข่าวเกี่ยวกับความผิดพลาดจากการทำศัลยกรรมก็มีการเผยแพร่ออกมาพอสมควร เนื่องจากกลุ่มผู้หญิงที่ต้องการเสริมหน้าอกอาจรู้ไม่เท่าทัน และการผ่าตัดทุกชนิดอาจมีผลข้างเคียงทั้งในระยะสั้นและระยะยาว จึงแนะนำทุกครั้งว่าก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมใดๆ ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน และเข้ารับการปรึกษากับแพทย์เพื่อให้ทราบข้อจำกัด ผลดี ผลเสียทุกครั้งเพราะมันเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของชีวิต” ศัลยแพทย์หญิงยังกล่าว

รู้จักกับการทำศัลยกรรมหน้าอก

จากข้อมูลเกี่ยวกับศาสตร์ของการศัลยกรรมเบื้องต้น อธิบายว่า การผ่าตัดเสริมหน้าอก คือการผ่าตัดเพื่อใส่ implant หรือ วัตถุที่ใช้ในการผ่าตัด นอกจากนี้การผ่าตัดเสริมหน้าอกยังสามารถนำไขมันของคนไข้ฉีดเข้าไปเพื่อเพิ่มขนาดของหน้าอกได้ด้วย ซึ่งผลลัพธิ์ที่ได้ก็จะแตกต่างกันไป ตามแต่วิธีทีเลือก่ใช้

สำหรับวัตถุที่ใช้เป็น implant เพื่อใส่เข้าไปเพิ่มขนาดหน้าอกให้ใหญ่ขึ้นนั้น มีหลายประเภท แต่แบ่งหลัก ๆ ออกเป็น saline-filled หรือถุงน้ำเกลือ และ silicone-filled หรือซิลิโคน ซึ่งคนไข้สามารถปรึกษาแพทย์ถึงความเหมาะสมที่จะเลือกใช้วัตถุเหล่านี้ได้ และการผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยการใช้ implant สามารถผ่าตัดใส่วัตถุ implant เข้าไปได้หลายแบบ คือภายใต้ กล้ามเนื้อหน้าอก และบนกล้ามเนื้อหน้าอก ซึ่งแต่ละวิธีจะมีค่าใช้จ่าย และผลลัพธิ์ที่ตามมาแตกต่างกัน

“การผ่าตัดหน้าอกที่นิยมมากที่สุดในไทยในขณะนี้คือการเสริมเต้านมด้วยซิลิโคน ซึ่งซิลิโคนในปัจจุบันพัฒนาคุณภาพดีขึ้นมาก มีความนิ่มและรูปร่างที่หลากหลาย และฝีมือการผ่าตัดของแพทย์ไทยมีชื่อเสียงทัดเทียมนานาชาติ จึงมีชาวต่างชาติมาทำผ่าตัดในไทยจำนวนมาก และมากขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากคุณภาพดี ราคาไม่แพง” ศัลยแพทย์หญิงกล่าวเพิ่มเติม

การเลือกใช้ซิลิโคน

เรื่องของซิลิโคนที่จะใส่เข้าไปนั้น ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ควรศึกษา โดยการใส่ซิลิโคนเข้าไปนั้น ศัลยแพทย์แนะนำว่าควรมีความเหมาะสมเรื่องขนาด และไม่ใหญ่จนเกินพอดี เหมาะสมกับสรีระ ของร่างกาย นอกจากนี้การเลือกผิว และรูปทรงของซิลิโคน ก็มีความสำคัญเช่นกัน เช่น ซิลิโคนที่เป็นผิวเนื้อทรายจะช่วยทำให้เกิดพังพืดได้อย่างขึ้น ซึ่งพังพืดเหล่านี้จะทำให้หน้าอกของคนไข้ มีอาการแข็ง สัมผัสไม่เป็นธรรมชาติ และอาจจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดแก้ไข ซึ่งซิลิโคนที่มีผิวเป็นเนื้อทราย จะมีราคาแพงกว่าซิลิโคนที่มีผิวเรียบ แต่ให้ผลดีกว่า

นอกจากผิวสัมผัสของซิลิโคนแล้ว คนไข้ควรต้องปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับรูปทรงของซิลิโคนด้วยเช่นกัน โดยปัจจุบันมีซิลิโคนที่เป็นทรงหยดน้ำ ซึ่งจะช่วยทำให้หน้าอกหลังได้รับการผ่าตัดมีความเป็นธรรมชาติ มากกว่า ซิลิโคนทรงกลม เนื่องจากทรงหยดน้ำจะสามารถเข้ากับสรีระหน้าอก ได้เป็นธรรมชาติมากกว่า

ศัลยแพทย์หญิงได้แนะนำเกี่ยวกับการเลือกใช้ซิโลโคนไว้เล็กน้อยว่า “อย่างที่หมอได้กล่าวไปแล้วนั้นว่าซิลิโคนในปัจจุบันพัฒนาคุณภาพดีขึ้นมาก มีความนิ่ม และรูปร่างที่หลากหลาย แต่การสอบถามแพทย์ของคุณถึงบริษัทผู้ผลิตซิลิโคนก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน”

เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ผลิตเป็นจำนวนมาก และก็มีบริษัทผู้ผลิตซิลิโคนบางเจ้าต้องปิดตัวไป เนื่องจากใช้ซิลิโคนที่ไม่ได้มาตรฐาน อย่างบริษัทชื่อดังเจ้านึงของฝรั่งเศส ที่มีข่าวดังไปทั่วโลกว่าไม่ได้ใช้ medical-grade meterial หรือวัสดุที่ใช้ในการทำซิลิโคนไม่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ จึงทำให้ถูกเรียกคืนซิลิโคน ซึ่งเป็นเรื่องวุ่นวายไปทั่วโลก เพราะบริษัทของฝรั่งเศสรายนี้ ส่งออกซิลิโคนไปขายทั่วโลก จนถูกฟ้องเรียกชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินมหาศาล ในที่สุดบริษัทต้องถูกรัฐบาลฝรั่งเศสสั่งปิดกิจการไป

นอกจากนี้ยังมีซิลิโคนจากจีน ที่มีข่าวว่า เกิดปัญหา leaking หรือซิลิโคนรั่วออกจากตัวถุงอีกด้วย ทำให้ คนไข้ต้องเข้ารับการผ่าตัดแก้ไข นำถุงซิลิโคนที่เสื่อมสภาพออกจากร่างกาย เพื่อป้องกันปัญหาทางสุขภาพที่อาจจะเกิดขึ้น

ดังนั้นแล้วก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอก คนไข้ควรมีการทำการบ้านมาเป็นอย่างดีว่าแพทย์ได้เลือกใช้ซิลิโคนของผู้ผลิตรายใด และบริษัทนั้นมีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.emaginfo.com/?p=49360