อยากยิ้มสวย หน้าเรียวยาว ต้องจัดฟัน กลายเป็นความเชื่อในกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา หรือไม่เว้นแม้กระทั่งในผู้ใหญ่หลายๆ คน ซึ่งจำนวนไม่น้อยที่มองว่าการจัดฟันเป็นเพียงแฟชั่นที่เสริมสร้างความน่ารัก สวยงาม ให้แก่ตนเองเท่านั้น จนลืมนึกถึงประโยชน์ที่แท้จริงของการจัดฟัน
แท้จริงแล้วการจัดฟันคือการรักษาทางทันตกรรมแขนงหนึ่ง เพื่อแก้ปัญหาการบดเคี้ยว อันเนื่องมาจากการสบฟันที่ผิดปกติ ลดปัญหาเรื่องฟันผุเนื่องจากฟันซ้อนเก ลดปัญหาการเกิดโรคเหงือกอักเสบ รวมทั้งเสริมสร้างความสวยงามของใบหน้าและฟัน
การจัดฟันแบบใสไร้เหล็กเป็นการใช้เครื่องมือจัดฟันที่มีความใสและสามารถถอดออกได้และได้ออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละบุคคลเครื่องมือจัดฟันแบบใสนี้สามารถทำให้ฟันจัดเรียงได้สวยงาม โดยเครื่องมือจัดฟันแต่ละชุดจะค่อยๆ จัดเรียงฟันอย่างเป็นธรรมชาติ เนื่องจากสามารถถอดออกได้ จึงทำให้สะดวกในการแปรงฟันและการรับประทานอาหาร
เครื่องมือจัดฟันมีลักษณะที่ใสมองเห็นได้ยากทำให้ยิ้มได้อย่างมั่นใจสามารถถอดเครื่องมือจัดฟันแบบใสออกด้วยตัวเองได้ไม่มีวัสดุที่อาจทำให้ระคายเคืองต่อช่องปากไม่มีข้อจำกัดในการรับประทานอาหาร การแปรงฟันและทำความสะอาดช่องปากทำได้ง่ายกว่าการจัดฟันแบบเหล็ก
โดยเฉลี่ยแล้วจะใช้เวลาในการรักษาประมาณ 1-2 ปี ซึ่งจะใช้เวลาการรักษาน้อยกว่าการจัดฟันแบบเหล็กทั่วไปประมาณ 30% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาทางด้านการสบฟัน สุขภาพฟันและโครงสร้างฟันของแต่ละคน ดังนั้นระยะเวลาจึงอาจไม่เท่ากันในแต่ละบุคคล โดยจะแนะนำให้เข้ามาพบแพทย์จัดฟันทุกๆ 6-8 สัปดาห์ เพื่อดูความคืบหน้าของการจัดเรียงฟันและเปลี่ยนเครื่องมือจัดฟันชุดใหม่ ซึ่งแต่ละชุดจะทำให้ฟันค่อยๆ เคลื่อนไปสู่ตำแหน่งที่แพทย์จัดฟันกำหนดไว้ ส่วนจำนวนชุดของเครื่องมือจัดฟันขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละบุคคล โดยมีแพทย์จัดฟันเป็นผู้กำหนด
๐ ขั้นตอนง่ายๆ สำหรับการจัดฟันแบบใส
- ขั้นตอนที่ 1 นัดพบและปรึกษาแพทย์จัดฟันจะช่วยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการรักษาถ่ายรูป เอกซเรย์ และพิมพ์ปากเพื่อนำเอาไปทำเครื่องมือจัดฟันแบบใส
- ขั้นตอนที่ 2 ทันตแพทย์จะใช้เทคโนโลยีโปรแกรมการสร้างภาพสามมิติเปลี่ยนจากรูปแบบพิมพ์ปากของคนไข้ให้เป็นชุดภาพแสดงวิธีการรักษาตามลำดับที่มีการกำหนดไว้และจะจัดทำเครื่องมือจัดฟันแบบใสขึ้นมาเป็นชุดทำให้ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของฟันขณะที่ได้รับการรักษาและการรักษาที่เสร็จแล้ว
- ขั้นตอนที่ 3 รับเครื่องมือจัดฟันแบบใส
- ขั้นตอนที่ 4 ต้องใส่เครื่องมือจัดฟันทุกวันและแต่ละชุดให้ใส่เป็นเวลา 2 สัปดาห์สามารถถอดออกได้เฉพาะเวลารับประทานอาหารแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเท่านั้น ระยะเวลาในการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตามควรเข้ามาพบแพทย์จัดฟันทุกๆ 6 สัปดาห์ เพื่อดูความคืบหน้าของการรักษาให้เป็นไปตามกระบวนการที่กำหนดไว้
- ขั้นตอนที่ 5 หลังการจัดฟันแบบใสได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามต้องใส่เครื่องคงสภาพฟัน (Retainer) เพื่อคงรักษารูปแบบฟันเอาไว้ไม่ให้มีการเคลื่อนออกเปลี่ยนทิศทางจากเดิมที่จัดเรียบร้อยแล้ว
๐ ข้อควรระวังของการจัดฟันแบบใส
การจัดฟันแบบนี้ต้องการการเอาใจใส่เป็นพิเศษ และความมีระเบียบวินัยในการสวมใส่ของผู้จัดฟันด้วย เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพตามต้องการ จึงต้องใส่เครื่องมือนี้ตลอดเวลา ทั้งกลางวันและกลางคืน วันละ 22 ชั่วโมง
๐ การดูแลรักษาสำหรับผู้ที่จัดฟันแบบใส
ควรถอดออกเวลารับประทานอาหาร แล้วแปรงฟันให้สะอาดก่อนใส่ทุกครั้ง และควรมาพบทันตแพทย์จัดฟันตามที่นัด เพื่อตรวจสภาพชุดเครื่องมือและการเคลื่อนของฟัน ซึ่งโดยทั่วไปคุณหมอจะนัดประมาณ 6-8 สัปดาห์
การจัดฟันแบบใส เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่อยากให้เห็นเหล็กจัดฟัน แนะนำให้มาปรึกษากันก่อนเพื่อประเมินสภาพฟันว่าสามารถจัดแบบใสได้หรือไม่ นอกจากนี้คุณหมอฝากมาว่า ในคนปกติควรมาตรวจเช็กฟันเป็นประจำทุก 6 เดือน สำหรับใครที่เตรียมพร้อมหรือวางแผนจะเป็นคุณแม่ต้องเดินทางมาพบคุณหมอเพื่อตรวจครรภ์ทุกเดือนก็เหนื่อยอยู่แล้ว คุณหมอยังไม่แนะให้จัดฟัน เนื่องจากหญิงมีครรภ์จะสามารถทำฟันได้เฉพาะช่วงตั้งครรภ์ 4-6 เดือน
โดย : ทพญ.ตริตาภรณ์ โรจนะสิริ
ขอบคุณบทความจาก : http://www.komchadluek.net/news/unclecham/239988
