...ความราบรื่นในชีวิตคู่เป็นสิ่งคาดหวังสำหรับคู่รักที่คิดตกลงปลงใจ ย้ายชีวิตไปอยู่ร่วมภายใต้ชายคาเดียวกัน
...สิ่งที่เห็นก่อนแต่งอาจจะไม่ใช่สิ่งที่คุณจะได้พบหลังจากนั้น
...คนเราคบกันมา 7 ปี อาจจะมีอะไรบางอย่างที่พบได้อีกในปีที่ 8 ของการคบหา
...สิ่งที่เกิดขึ้นใหม่จะไม่ใช่สาระที่ต้องเอามากังวลอีกต่อไป ถ้าเราสามารถควบคุมนิสัยต้องห้าม 10 ประการดัง
ต่อไปนี้ได้
1. นิสัยเอาแต่ใจตัว
ถ้าคุณยังเอาแต่ใจตัวเอง โดยให้อีกฝ่ายหนึ่งเป็นคนตามใจ อย่าลืมว่า ความอดทนมีขีดจำกัด เขาหรือเธออาจจะ ไม่ยอมทนคุณอีกต่อไป คิดดูสิว่าขนาดตัวเราเองยังอยากให้เขาเอาใจเรา เขาก็ต้องอยากให้เราเอาใจเขาบ้าง ตามใจกันไป ตามใจกันมาบ้าง ชีวิตคู่ก็จะสนุกสนาน ตื่นเต้นกันดี
คิดดูอีกที ถ้าเขาเอาใจเราเสียทุกอย่างจนไม่เป็นตัวของตัวเอง เขาก็จะไม่รู้สึกภูมิใจในชีวิตคู่ที่ได้อยู่กับเรา เพราะ ไม่มีใครหรอกที่อยากเป็นผู้ติดตามเสมอไป ใครๆ ก็อยากจะมีโอกาสเป็นผู้นำบ้าง ไม่ว่าเรื่องเรือรบหรือเรื่องไม้ขีดไฟ ลองทดสอบในทำนองกลับกัน ถ้าให้เราต้องตามใจเขาทุกอย่างจนเราไม่เป็นตัวของตัวเอง เราก็คงรู้สึกไม่ชอบเช่นกัน
ใช่ไหมล่ะ
2. นิสัยเจ้าระเบียบ
อย่าลืมว่าบ้านคือวิมานของเรา และเป็นสถานที่ที่ทุกๆ คนรู้สึกผ่อนคลายที่สุด ดังนั้นถ้าพ่อบ้านหรือแม่บ้านจะขอ ปลดปล่อยความเจ้าระเบียบละเอียดลออจากที่ทำงานลง ก็ต้องยอมให้เขาไปบ้าง จะคอยเป็นคุณครูระเบียบที่บ้านอยู่ตลอดเวลา ก็พานจะทำให้ชีวิตคู่รู้สึกอึดอัด
อย่างไรก็ดีการจัดระเบียบก็ต้องมีบ้าง อาจจะเก็บกวาดบ้านวันละครั้ง ไม่ใช่ชั่วโมงละครั้ง อย่าลืมว่า บ้านไม่ใช่ที่ทำงาน ไม่มีการประกวด 5 ส. หรือที่ทำงานดีเด่นใดๆ ทั้งสิ้น สร้างความผ่อนคลายให้มากเข้าไว้ ก่อนที่คู่ชีวิตจะหนีไป หาความผ่อนคลายนอกบ้าน แต่ก็ไม่ใช่ปล่อยทิ้งเสียรกเป็นบ้านร้างล่ะ เดี๋ยวจะกลายเป็นข้ออ้างไปหาที่เจริญหูเจริญตานอกบ้านเข้าให้อีก
3. นิสัยเจ้าชู้
แน่นอนว่าสัญชาตญาณเบื้องลึกของมนุษย์ปุถุชนนั้นจะมีเรื่องความใคร่กับเรื่องความก้าวร้าวฝังลึกอยู่ แต่ชีวิตคู่ที่ ต้องการความมั่นคงนั้น ก็ต้องอาศัยความซื่อสัตย์ เพื่อก่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการสร้างชีวิตคู่อย่างยั่งยืนสถาพร
เมื่อเกิดความเชื่อมั่นแล้ว ศักยภาพในการสร้างฐานะ ทั้งฐานะทางครอบครัวและฐานะทางสังคมก็จะมีสูงมากขึ้นไปเรื่อยๆ เมื่อปักใจเลือกคู่ของเราแล้ว การซื่อสัตย์ต่อกันและกันโดยใช้สติก็จะส่งเสริมกันและกัน ให้อยู่ด้วยกันได้อย่างราบรื่นสม่ำเสมอ
4. นิสัยชอบจับผิด
ถ้าคู่รักแต่ละคนต่างทำเป็นนักสืบ คอยจับผิดเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แล้วล่ะก็ เจอสิ่งผิดแน่ๆ เพราะมาตรฐานหรือเกณฑ์ ของแต่ละคนไม่เท่ากัน ดังนั้นถ้าต่างฝ่ายต่างขยันจับผิดกัน รับรองเลยว่ามีแต่เรื่องผิดเกิดขึ้นมากมาย พาให้เกิดเรื่องขุ่นข้องหมองใจกันแน่นอน
ลองเปลี่ยนมาเป็นจับถูกกันดีไหมครับ เรื่องถูกต้องมีมากมายแน่นอนจากอีกฝ่าย ลองหาข้อถูกต้องหรือข้อดีของคู่รักของคุณสักวันละ 3 อย่างดูสิครับ รับรองความรักจะเบ่งบานมากขึ้น มาจับถูกกันดีกว่าเพราะการจับผิดมันก็ผิดตั้งแต่ วิธีจับแล้วล่ะ
5. นิสัยชอบแบ่งฝ่าย
ลงถ้ามีการแบ่งเป็นฝ่ายเธอหรือฝ่ายฉันแล้วละก็ สัญญาณความแตกแยกก็มาถึงแล้ว คู่ชีวิตที่ดีหรือที่รักกันมักจะมี เพียงฝ่ายเดียวคือ "ฝ่ายเรา" เท่านั้น ถ้าเกิดมีการแบ่งเป็นฝ่ายเธอหรือฝ่ายฉันมากกว่าเป็นฝ่ายเราแล้ว การคิดอะไร ปรึกษาอะไรร่วมกันก็จะน้อยลง หันไปหาคนนอกบ้านแทน
การเชื่อหรือปรึกษาคนนอกบ้านมากกว่าปรึกษากันเองมากขึ้นก็มักนำไปสู่ความแตกแยก โดยเฉพาะการเชื่อคนอื่นมากกว่าโดยไม่มีสติ
6. นิสัยไม่วางแผนชีวิต
การวางแผนชีวิตร่วมกันย่อมนำไปสู่เป้าหมายหรือจุดหมายชีวิตที่สอดคล้องกัน เช่น ถ้าเป้าหมายชีวิตของฝ่ายหนึ่ง ต้องการสร้างฐานะใหญ่โต อีกฝ่ายหนึ่งขออยู่ไปวันๆ ความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้นแน่นอน เพราะขัดกันที่กระบวนการทางความคิด แล้ววิธีปฏิบัติก็จะแตกต่างไปคนละทาง ดังนั้น ช่วยวางแผนกันนิด ชีวิตคู่จะได้ราบรื่นไปในทางเดียวกันได้ดี
7. นิสัยเพิกเฉย
ถ้าคู่รักของคุณรู้สึกว่าคุณเพิกเฉยต่อเขาแล้ว ทั้งๆ ที่คุณก็พยายามเต็มที่ในการให้ความสำคัญของอีกฝ่าย ต้องลองมาพิจารณาดูแล้วล่ะว่า เขาพยายามให้คุณสนใจเขามากเกินไป หรือคุณสนใจความรู้สึกของเขาน้อยเกินไป
เพราะถ้าจูนคลื่นไม่ตรงกันแล้ว ผลของการรับฟังมักจะออกมาไม่ดี ส่งให้การสื่อสารไม่เป็นไปอย่างราบรื่นและ ความเข้าใจกันก็น้อยลง
8. นิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้น
อย่าลืมว่าคุณทั้งคู่เป็นคู่รักกัน จะโกรธจะแค้นกันไปถึงไหนกันล่ะ กับคนอื่นๆ ในสังคม คุณยังไม่โกรธเขาขนาดนี้เลยใช่ไหมละ
ลองมองหาข้อดีของกันและกันไม่ดีกว่าเหรอ หรือลองหาพฤติกรรมที่ทำให้คุณโกรธเขาอยู่ไม่ดีเหรอ อาจจะมีเหตุผลลึกๆ ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้นี่นา เอ่ยปากถามเขาสิครับ การสื่อสารที่ดีมักช่วยแก้ปัญหาไปในทางที่ดีเสมอ อย่าลืมว่า การบรรลุวุฒิภาวะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ การให้อภัยซึ่งกันและกันนั่นเอง
9. นิสัยชอบคิดว่าคนรักของคุณเป็นของตาย
การระมัดระวังคำพูดก็เลยไม่มีเท่าที่ควร การพูดจาที่เคยไพเราะเพราะพริ้งแทบจะคัดสรรออกมาจากพจนานุกรม หรือบทกวีที่อ่อนหวานก็เลยกลายเป็น ไปขุดออกมาจากตำรารวมคำด่า 108 แสบถึงกึ๋นอะไรทำนองนั้น พูดจาให้เพราะตามธรรมชาติของคุณนั่นแหละครับ เสน่ห์มันมีอยู่ในตัวคุณเองแล้วนี่นา
การแต่งตัวก็เช่นเดียวกัน อย่าลืมว่าเขาหรือเธอชอบคุณที่ความหล่อเหลาหรือสวยงาม สมาร์ท ดุจนายแบบนางแบบของคุณไม่ใช่เหรอ อย่าปล่อยเนื้อ ปล่อยตัวมากเกินไปล่ะ ยกเว้นถ้าเป็นตามสังขารก็อีกข้อหนึ่ง
10. นิสัยลืมขอบคุณ
คนรักกันมักสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กันและกันเสมอ เมื่อคุณได้สิ่งอะไรต่างๆ ที่ดีที่สุดที่เขาสรรหามาให้แล้ว อย่าลืมเอ่ยปากกล่าวคำว่า "ขอบคุณ" กับเขาอย่างอ่อนหวานและจริงใจ สิ่งนี้คือน้ำทิพย์ชโลมใจอีกอย่างหนึ่ง ให้เขารักคุณมากขึ้น และพร้อมที่จะสรรหา สิ่งที่ดีที่สุดมาให้อีกต่อไป
อาจมีอีกหลายนิสัยที่ยังไม่ได้กล่าวถึงในที่นี้ แต่ผมคิดว่า ถ้าคุณผู้อ่านได้ลองพิจารณา ลด ละ เลิก นิสัยต้องห้ามเหล่านี้ ชีวิตคู่ก็จะมีความสุขและอบอุ่นต่อไปอีกนานเท่านาน
นพ.สมชาย มาลสุขุม
ขอบคุณบทความจาก : https://my.dek-d.com/Randolphy/blog/?blog_id=10109260