คำนิยาม มีอาการไอนานต่อเนื่องเป็นระยะเวลามากกว่า 2 เดือน(คำนิยามจากสมาคมโรคปอดของประเทศสหรัฐอเมริกา, American College of Chest Physician)
โดยปกติ เมื่อมีการเจ็บป่วยจากกลุ่มอาการไข้หวัดธรรมดา ช่วงแรกมีอาการไอแห้งๆ หรือมีเสมหะได้ และส่วนใหญ่อาการไอมักจะค่อยๆดีขึ้นภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ ในกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อนจากไข้หวัด เช่น กลุ่มอาการหลอดลมอักเสบหรือปอดอักเสบ กลุ่มอาการโพรงไซนัสอักเสบ อาการไอจะมีระยะเวลานานมากกว่า 2-4 สัปดาห์ ในกรณีผู้ป่วยบางรายเดิมมีโรคประจำตัวเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ เมื่อไม่สบายเป็นไข้หวัด อาจมีอาการไอมากและระยะเวลานานมากกว่า 2-4 สัปดาห์ จากกลุ่มอาการน้ำมูกไหลลงคอ ระคายคอทำให้เกิดอาการไอ
สาเหตุที่พบได้บ่อยของอาการไอเรื้อรังในประเทศไทย
- ภาวะน้ำมูกไหลลงลำคอ(Post nasal drip syndrome/Upper airway cough syndrome)
ผู้ป่วยกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่มักมีอาการไอเรื้อรัง ร่วมกับอาการทางจมูก เช่น น้ำมูก หรือ คัดจมูกเป็นๆหาย ระคายคอ ผู้ป่วยบางรายอาจะมาพบแพทย์ด้วยอาการไอเรื้อรังชนิดมีเสมหะ สาเหตุเกิดได้จาก- อากาไอที่เกิดภายหลังการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน(Post-infectious cough)
- โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้(Allergic rhinitis)
- กลุ่มอาการโพรงไซนัสอักเสบ(Sinusitis)
- กลุ่มอาการไอที่มีความเกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่(Chronic Bronchitis/Chronic Obstructive Pulmonary disease)ในผู้ป่วยที่สูบบุหรี่พบว่าส่วนใหญ่ จะมีอาการไอเรื้อรังมีเสมหะเป็นระยะเวลานานหลายปี จากกลุ่มอาการหลอดลมลมอักเสบเรื้อรังจากการสูบบุหรี่ หรือโรคถุงลมโป่งพอง
- โรคหอบหืด(Asthma) มักมีประวัติโรคภูมิแพ้เดิมอยู่ มีประวัติไอ ร่วมกับมีอาการหายใจติดขัด หรือมีเสียงวี๊ดๆ
- วัณโรคปอด(Pulmonary Tuberculosis) ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมีอาการไอเรื้อรัง ร่วมกับมีอาการไอมีเสมหะปนเลือด มีไข้ต่ำๆ เบื่ออาหารและน้ำหนักตัวลดลง มีประวัติสัมผัสบุคคลใกล้ชิดที่ป่วยเป็นวัณโรค
- โรคกรดไหลย้อน(Gastro-esophageal Reflux Disease) ผู้ป่วยกลุ่มนี้ อาจมาพบแพทย์ด้วยอาการไอเรื้อรัง ร่วมกับมีอาการ เจ็บคอเรื้อรัง มีอาการแน่นแสบร้อนบริเวณกลางหน้าอก เร้อเปรี้ยวบ่อยๆ
- กลุ่มอาการไอจากยาบางชนิด ในผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเช่น ความดันโลหิตสูง การรับประทานยาความดันในกลุ่มยา ACEI อาจมีอาการไอแห้งๆได้และส่วนใหญ่เกิดภายหลังเริ่มรับประทานยาในช่วง 1-2 เดือน
การตรวจวินิจฉัยสาเหตุของอาการไอเรื้อรัง
ในการตรวจวินิจฉัยสาเหตุของอาการไอเรื้อรัง จำเป็นต้องอาศัยการทำงานร่วมกัน ระหว่างแพทย์เฉพาะทาง สาขาโรคหู คอ จมูก(ENT) อายุรแพทย์โรคทางเดินหายใจ(chest med) และสาขาโรคภูมิแพ้(allergy)
- การซักประวัติและการตรวจร่างกายอย่างละเอียด สามารถช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยสาเหตุของอาการไอเรื้อรังได้เบื้องต้น แพทย์สาขาโรคหู คอ จมูก มีเครื่องในการส่องดูโพรงจมูก และผนังลำคอเพื่อช่วยในการวินิจโรคเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ กลุ่มอาการโพรงไซนัสอักเสบ
- การส่งตรวจเอ็กซ์เรย์ปอด(Chest X-ray) เพื่อดูความผิดปกติภายในปอดเบื้องต้น หรือ การส่งตรวจเอ็กซ์เรย์โพรงไซนัส(Sinus X-ray) ในกรณีที่สงสัยภาวะโพรงไซนัสอักเสบ
- การตรวจสมรรถปอด หรือการตรวจการกระตุ้นความไวของหลอดลม (Pulmonary function test, Bronchoprovocation test) เพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพองจากการสูบบุหรี่
- การตรวจเอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์ทรวงอก(CT-scan Chest)
- การส่งตรวจเสมหะ (Sputum examination) การส่งตรวจเสมหะเพื่อย้อมเชื้อและเพาะเชื้อวัณโรค(Acid fast stain, Culture for Tuberculosis)
ผลกระทบและภาวะแทรกซ้อนจากอาการไอ ได้แก่ มีอาการเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อหรือซี่โครงบริเวณทรวงอก ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ขณะที่มีอาการไอ อาการไอที่มีอาการมากในช่วงระยะเวลากลางคืน มีผลทำให้นอนหลับพักผ่อนไม่สนิท บางครั้งอาการไอส่งผลต่อสภาพจิตใจ ทำให้เกิดความกังวลความั่นใจในการเข้าสังคมได้
โดย : นพ. ปรีชา แสนยานุสิทธิ์กุล
ขอบคุณบทความจาก : https://www.samitivejhospitals.com/th/%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88/