จากบทความเรื่องเล่า หมอเช้าตรู่ตอน : แพ้ยาคุมกำเนิด
ใน drchawtoo.com โดย DR.CHAWTOO หรือ นพ.ปัญญา ศักดิ์สง่าวงษ์
ได้อธิบาย ‘อาการ’ ที่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดและเรียกอาการคลื่นไส้อาเจียน วิงเวียนศีรษะ
ว่าเป็น ‘อาการแพ้ยา’ ว่าจริงๆ แล้ว ถือว่าเป็นผลข้างเคียงจากยาเม็ดคุมกำเนิด
ที่มีสาเหตุมาจากการเลือกรับประทานยาของเราเอง!
นอกจากนี้ยังแนะนำวิธีการรับประทานยาคุมกำเนิดที่เวิร์คสุดๆ มาฝากกัน
สาเหตุที่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน วิงเวียนศีรษะ
อาจเลือกใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจน(Ethinyl estradiol:EE) ค่อนข้างสูง
ไม่เหมาะกับร่างกายของตน ดังนั้นหากใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดเเล้วมีอาการคลื่นไส้ วิงเวียน
ลองหันมาเลือกใช้ยี่ห้ออื่นที่มีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจน(Ethinyl estradiol:EE) ต่ำลง
เช่น จาก EE 35 ไมโครกรัม ก็เปลี่ยนเป็น 30 เป็น 20 ไมโครกรัม
แต่หากเลือกใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดกลุ่มที่มีปริมาณฮอร์โมน EE ปริมาณยิ่งต่ำ เช่น 20,15 ไมโครกรัม
แม้ว่าอาการคลื่นไส้ วิงเวียนจะน้อยลงมากๆ แต่อาจมีผลข้างเคียงอื่นตามมาแทน
นั่นก็คือ มีเลือดออกกะปริดกะปรอย น้ำตาลๆ แดงจางๆ ระหว่างรอบประจำเดือน
แต่ประสิทธิภาพการคุมกำเนิดไม่ได้แตกต่างกันชัดเจนแต่อย่างใด
ยกตัวอย่าง ยาเม็ดคุมที่มีปริมาณฮอร์โมน (EE) จากมากไปน้อย
ฮอร์โมนสูง(35mcg) ได้แก่ Dian
ฮอร์โมนต่ำ(30mcg) ได้แก่ Yasmin Marvelon Belara
ฮอร์โมนต่ำมาก(20mcg) ได้แก่ Yaz Mercilon
ฮอร์โมนต่ำสุด(15mcg) ได้แก่ Oilez Minidoz
ผู้หญิงที่ร่างกาย sensitive ต่อฮอร์โมนเอสโตรเจนปริมาณสูงๆ (EE 35 mcg)
มักจะมีอาการ เช่น วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน คัดตึงเต้านมมาก
แนะนำให้มาใช้ยาคุมชนิดปริมาณฮอร์โมนต่ำ-ต่ำมาก (EE 20-30 mcg)
แต่ข้อเสียของยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนต่ำมากๆ
(EE 15-20 mcg )คืออาจทำให้มีเลือดออกกะปริดกะปรอยระหว่างรอบประจำเดือนได้
และเมื่อคำนึงถึงขนาดรูปร่างหญิงไทยทั่วไปที่ไม่ได้ตัวโตมากนัก ฮอร์โมนขนาดต่ำ(EE 30) น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ให้ลองเลือกใช้
สุดท้ายคุณหมอแนะนำว่า ยาคุมที่ราคาแพงไม่ได้หมายความว่าจะต้องดีกว่าเสมอไป
มันขึ้นกับว่าเราเลือกใช้ได้เหมาะสมกับตัวเราหรือไม่
บางครั้งยาคุมที่ราคาไม่ได้สูงมาก แต่กลับใช้แล้วผลข้างเคียงน้อยกว่าก็เป็นได้
ถ้าเลือกไม่ถูกจริงๆ ก็อาจเข้ามาพบเเพทย์เพื่อขอคำแนะนำน่าจะเป็นวิธีที่ดีและง่ายที่สุด
* ขอบคุณข้อมูลจาก : drchawtoo.com