นัดพบแพทย์

ไม่ยอมแพ้ให้อัลไซเมอร์ How to Beat Alzheimer!

22 Feb 2017 เปิดอ่าน 1753

“คุณยายอายุ 80 ปีแล้ว แต่ยังจำอดีตได้อย่างแม่นยำ เล่าเรื่องในอดีตบ่อย บ้านเกิดอยู่ที่ไหน เรียนประถมที่ไหน มัธยมที่ไหน เพื่อนเก่าชื่ออะไร จำได้หมด” อย่าเพิ่งดีใจ คิดกันไปใหญ่ว่าคุณยายของฉันความจำเป็นเลิศ อาการแบบนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคอัลไซเมอร์

ไอเกิล มีโอกาสได้พบกับ นายแพทย์เอกพจน์ นิ่มกุลรัตน์ อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาท โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ อาจารย์ได้ช่วยไขข้อข้องใจ เกี่ยวกับโรค Alzheimer จึงขอนำมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นความรู้ในการดูแล สว. (ผู้สูงวัย) กันนะคะ

สมอง เป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย มีหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย การจดจำ การคิดไตร่ตรอง และความรู้สึกต่างๆ สมองประกอบด้วยเซลล์เป็นจำนวนมาก ทำหน้าที่แตกต่างกัน การที่เราจะคิด หรือจดจำสิ่งต่างๆ นั้น เกิดจากการทำงานที่เป็นปกติของเซลล์สมอง ซึ่งความจำของคนเรา แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ

1. ความจำระยะสั้น หมายถึงความจดจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะไม่นาน เป็นนาที ชั่วโมง หรือเป็นวัน เช่น คุณสามารถจำเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันที่ทำไปเมื่อเช้า หรือเมื่อวานได้

2. ความจำระยะยาว เป็นความจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ว่ามีเหตุการณ์อะไรที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของตนเองบ้าง อาจจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมา 1-2 ปี หรือ 10 ปีหรือนานกว่านั้น แต่เรายังสามารถจำเหตุการณ์ที่ผ่านมาได้อย่างชัดเจน

เมื่อก่อนตอนอายุยังน้อยก็จำได้แม่นยำดี พออายุเริ่มมากขึ้น แต่ยังไม่แก่ซักหน่อย ทำไมหลงๆ
ลืมๆ วางของไว้ตรงไหนก็จำไม่ได้ แบบนี้ใกล้เป็น “อัลไซเมอร์” แล้วหรือเปล่า หลายคนคงเริ่มมีคำถามแบบนี้อยู่ในหัว

อาจารย์กล่าวว่า “อาการหลงๆ ลืมๆ อาจเกิดขึ้นได้ กับคนปกติ ยังไม่ถึงขั้น ภาวะสมองเสื่อมหรือ เป็นโรคอัลไซเมอร์ วิธีสังเกตว่าอาการหลงลืมของเรานั้น เป็นปกติหรือไม่ ง่ายนิดเดียว ถ้าสิ่งที่เราลืมนั้นสามารถย้อนนึกแล้วนึกออก เช่น ถ้าหากเราลืมว่าเก็บของไว้ที่ไหน แล้วเราค่อยๆ ลำดับเหตุการณ์ ว่าวันนั้นเราถือของชิ้นนั้นไปที่ใดบ้าง เป็นขั้นเป็นตอน แล้วเรานึกออก ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่หากเราย้อนนึกแล้ว นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกเลย อันนี้ถือว่าผิดปกติ อาจจะอยู่ใน ภาวะสมองเสื่อม”

อาจารย์บอกว่า ต้องทำความเข้าใจกันให้ชัดเจนก่อน ระหว่างสมองเสื่อม กับ โรคอัลไซเมอร์ สมองเสื่อม ไม่ใช่โรค แต่เป็นภาวะหนึ่ง ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากระบบฮอร์โมนภายในร่างกายทำงานผิดปกติ เช่น ไทรอยด์ต่ำ การติดเชื้อซิฟิลิส สิ่งเหล่านี้มีผลทำให้ความจำแย่ลง หากเราแก้ไขและรักษาที่สาเหตุดังกล่าว ภาวะสมองเสื่อมก็จะดีขึ้น ความจำก็กลับมาดีเหมือนเดิม

โรคอัลไซเมอร์ มักเกิดกับคนที่มีอายุเกิน 65 ปีขี้นไป ถ้าเกิดก่อน อาจเป็นจากกรรมพันธุ์ได้ เช่น ในครอบครัวมีคุณปู่เป็น โรคอัลไซเมอร์ ตอนอายุ 50 ลูกหลานก็อาจมีโอกาสเป็นได้เหมือนกัน แต่ไม่จำเป็นเสมอไป ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นโรคแน่ๆ
ในปัจจุบัน ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าอะไรคือสาเหตุของโรคนี้กันแน่ แต่หากจะดูว่าผู้ใหญ่ในครอบครัวของเรานั้น เข้าข่ายของโรคอัลไซเมอร์หรือไม่ สามารถสังเกตได้จากอาการเหล่านี้

- อายุเกิน 65 ปีขึ้นไป
- เสียความจำระยะสั้นที่เกิดค่อนข้างรุนแรงและเกิดซ้ำๆ บ่อยๆ เช่น กินข้าวแล้วบอกว่ายังไม่ได้กิน
- จำได้แต่เหตุการณ์ในอดีต แต่สิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ๆ ในชีวิตประจำวันกลับจำไม่ได้
- วางของหรือซ่อนของในที่แปลกๆ เช่น เก็บเสื้อผ้าไว้ในตู้เย็น เก็บเตารีดไว้ในตู้กับข้าว
- มีอารมณ์และพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ปกติเป็นคน เรียบร้อย กลับกลายไปคนก้าวร้าว หรือแต่เดิมเป็นคนขี้หงุดหงิด ฉุนเฉียว กลับกลายเป็นคนอารณ์ดีซะอย่างนั้น
- เกิดความหวาดระแวงคนอื่นมากขึ้น เช่น กลัวว่าจะมีคนมาขโมยทรัพย์สินของตัวเอง

ระดับความรุนแรงของโรคอัลไซเมอร์ แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่
ระยะต้น ผู้ป่วยจะถามซ้ำๆหรือลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใหม่ๆ เช่น ลืมกินอาหาร ลืมชื่อคนที่คุ้นเคย

ระยะกลาง อารมณ์และพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง เกิดความหวาดระแวงคนรอบข้าง ส่วนใหญ่จะระแวงเกี่ยวกับทรัพย์สินของตัวเอง กลัวว่าจะมีคนมาขโมยจึงต้องหาที่ซ่อน และจะซ่อนไว้ในที่แปลกๆ เช่น เก็บเงินไว้ในตู้เย็น ถังขยะ หรือกล่องข้าว แล้วตัวเองก็หาไม่พบ เพราะจำไม่ได้ว่านำของไปซ่อนไว้ที่ไหน เมื่อหาไม่พบก็คิดว่ามีคนมาขโมย

ระยะปลาย เป็นอาการลืมที่ค่อนข้างรุนแรง ลืมแม้กระทั่งการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน เช่น ลืมวิธีการกลืน อมข้าวไว้ในปาก ลืมแม้กระทั่งวิธีการพูด จนกระทั่งเดินไม่ได้ เพราะสมองถดถอยและเสื่อมลงทำให้สมองลดการควบคุมส่วนต่างๆ ของร่างกาย

วิธีการรักษา
ในปัจจุบันมียาที่ช่วยชะลอและรักษาอาการไม่ให้ก้าวหน้าไปไกล โดยรักษาเจาะจงไปตามอาการร่วมกับพฤติกรรมบำบัด คนรอบข้างโดยเฉพาะคนที่ดูแลคือคนสำคัญสำหรับผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ต้องมีความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ อดทนกับอารมณ์และพฤติกรรมของผู้ป่วย ใช้วิธีหลีกเลี่ยง หรือเบี่ยงเบนความสนใจ อย่าพยายามโต้แย้งหรือเถียง นอกจากนี้ยังมีการรักษาด้วยดนตรีบำบัด โดยใช้ดนตรีบรรเลง ซึ่งจะช่วยลดพฤติกรรมการก้าวร้าวให้ดีขึ้น ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขส่งผลให้ความจำอาจดีขึ้นได้

โรคอัลไซเมอร์ ไม่มียาหรือวิธีไหนที่จะรักษาให้หายขาด เป็นเพียงการชะลออาการไม่ให้ก้าวหน้าไปไกลเท่านั้น ควรดูแลสุขภาพเพื่อเป็นเกราะป้องกันให้กับตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ กันดีกว่านะคะ

- ลดอาหารประเภทไขมัน และอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น ออกกำลังกายแบบแอโรบิค
- พักผ่อน นอนหลับให้เพียงพอ
- ตรวจสุขภาพ เพื่อคัดกรองเบื้องต้น เป็นการตรวจหาความเสี่ยงของภาวะการณ์ต่างๆ ที่อาจนำไปสู่ภาวะสมองเสื่อม เช่น ตรวจการทำงานของสมองโดยการตอบแบบสอบถาม ตรวจเลือดเพื่อดูฮอร์โมนไทรอยด์ หรือเชื้อซิฟิลิส ตรวจการทำงานของตับ ไต หากเรารู้สาเหตุหรือเจอโอกาสตั้งแต่เนิ่นๆ สามารถให้ยาเพื่อช่วยชะลอการเกิดโรคและรักษาที่สาเหตุก็จะช่วยให้ภาวะสมองเสื่อมดีขึ้น

อาจารย์ฝากเคล็ดลับว่า การบริหารสมอง และฝึกใช้สมองอย่างมีเหตุมีผลและคิดบวก จะช่วยชะลอการเกิดปัญหาด้านความจำได้ เช่น การเล่น Sudoku เพราะเป็นการใช้สมองแบบมีเหตุผลไม่ใช่แค่เพียงบวกเลขอย่างเดียว ก็ลองเล่นกันดูนะคะ แต่ถ้าใครสงสัยหรือเริ่มมีภาวะหลงๆ ลืมๆ เกิดขึ้นบ่อยๆ ย้อนนึกแล้วนึกไม่ออกล่ะก็ มาปรึกษาอาจารย์กันได้ค่ะ

ขอบคุณบทความจาก : http://www.npc-se.co.th/read/npc_read_detail.asp?cate_id=2&read_id=1205