รู้ไหม “โรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท” เป็นโรคสุดฮิตที่เกิดกับหลังอันดับต้นๆ นอกจากปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลังธรรมดาแล้ว จะทำอย่างไรที่จะเยียวยาให้หาย เรามีคำตอบค่ะ
รู้จักหมอนรองกระดูก
อวัยวะที่เรียกว่า หมอนรองกระดูก (Intervertebral disc) มีลักษณะรูปร่างเป็นวงกลม มีขอบเป็นพังผืดเหนียว ภายในมีของเหลวคล้ายเจลบรรจุอยู่ หมอนรองกระดูกนี้คั่นกลางอยู่ระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละข้อ ทำหน้าที่รองรับแรงกระแทก เปรียบได้กับเป็น “โช้กอัพ” ให้กระดูกสันหลังของเรา
เมื่อหมอนรองกระดูกได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรง ของเหลวในหมอนรองกระดูกจะมีโอกาสทะลักออกมากดทับเส้นประสาทที่อยู่ข้างเคียง ทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรง หลายคนอาจคิดว่า โรคนี้เกิดเฉพาะผู้สูงวัย แต่ความจริงแล้วพบได้ในวัยหนุ่มสาวอายุ 20 ปี ขึ้นไป มักเกิดจากการดำเนินชีวิตประจำวันที่ต้องใช้หลังผิดท่าทาง เช่น การยกของหนัก การนั่งนานๆ การไอหรือจามแรงๆ การออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาที่ต้องออกแรงผ่านหลังมากๆ เช่น การตีกอล์ฟ เป็นต้น
เมื่อเส้นประสาทถูกกดทับ เส้นประสาทจะเกิดการอักเสบ หากเส้นประสาทที่ถูกกดทับเป็นเส้นที่เชื่อมโยงกับขาจะส่งผลให้มีอาการปวดร้าวบริเวณขา ซึ่งเป็นอาการเด่นของโรคในบริเวณกระดูกสันหลังส่วนบั้นเอว บางรายมีอาการชาตั้งแต่เอวร้าวลงขาหรือหลังเท้า ตามมาด้วยกล้ามเนื้อขาอ่อนแรง และที่สุดอาจถึงกับสูญเสียการควบคุมระบบขับถ่าย
บำบัดโรคอย่างไรดี
หากเกิดอาการโรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท ควรพบแพทย์ ซึ่งแพทย์จะให้การรักษาตามลำดับดังนี้
1.กินยาระงับปวด เพื่อลดการอักเสบ
2.ทำกายภาพ
3.ฉีดยาลดการอักเสบที่เส้นประสาท
4.ผ่าตัด ซึ่งในปัจจุบันมีอยู่ 2 วิธี คือ
4.1 การผ่าตัดด้วยวิธีจุลศัลยกรรม (Microdiscectomy) โดยใช้กล้อง Microscope ช่วยในการผ่าตัด โดยกล้องจะอยู่ภายนอกร่างกาย จากนั้นใส่อุปกรณ์เข้าไปเพื่อเลาะกล้ามเนื้อออกจากกระดูกเป็นแนวยาว แล้วทำการตัดกระดูกบางส่วนออกเพื่อให้สามารถผ่าตัดตำแหน่งที่มีการกดทับของเส้นประสาทได้ วิธีนี้ทำให้เกิดความบอบช้ำต่อกล้ามเนื้อและอวัยวะข้างเคียง ซ้ำมีแผลขนาดประมาณ 3-5 เซนติเมตร
4.2 การผ่าตัดแบบ Full Endoscopic Spinal Surgery เป็นการพัฒนามาจากวิธีจุลศัลยกรรม วิธีการโดยเจาะและสอดกล้อง Endoscope ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 มิลลิเมตร ซึ่งมีเลนส์ติดอยู่ส่วนปลายผ่านใยกล้ามเนื้อไปยังหมอนรองกระดูกส่วนที่กดทับเส้นประสาท จากนั้นใส่เครื่องมือผ่าตัดผ่านกล้องเข้าไปตัดหมอนรองกระดูกโดยตรง ข้อดีคือ สามารถมองได้ทุกมุมในบริเวณที่จะผ่าตัด และอุปกรณ์มีระบบน้ำไหลเวียน สามารถชะล้างสิ่งที่ผ่าตัด ทำให้มองเห็นชัดเจนตลอดเวลา
กันไว้ดีกว่า
แพทย์ส่วนใหญ่มักให้คำแนะนำว่า สิ่งที่ดีกว่าการรักษา คือ การป้องกันแต่เนิ่นๆ เพียงแค่ใช้หลังอย่างถูกวิธี โดยหลีกเลี่ยงการยกของหนัก หากต้องนั่งนานๆ ควรหาโอกาสเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ และควรหมั่นบริหารกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้องให้แข็งแรง ก็จะยืดอายุการใช้งานของหมอนรองกระดูกไม่ให้เสื่อม สภาพก่อนวัยอันควร
ลองนำไปปฏิบัติดู สุขภาพดีอยู่ที่หมั่นทำอย่างต่อเนื่องค่ะ
* ขอบคุณข้อมูลจาก : http://mgr.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000053486