นัดพบแพทย์

การปกป้องผิวสำคัญกว่าการบำรุงผิว

23 Feb 2017 เปิดอ่าน 1658

ลา โรช-โพเซย์ ได้รับเกียรติจาก รศ.นพ.นภดล นพคุณ ซึ่งปัจจุบันได้ดำรง ตำแหน่งนายกสมาคม แพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย และยังเป็นหัวหน้าหน่วยโรคผิวหนัง ของภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาให้เกียรติในการพูดคุย และให้ คำแนะนำถึงวิธีที่ถูกต้องในการดูแลผิวพรรณ เพื่อผิวสุขภาพดีสำหรับทุกคน

รศ.นพ.นภดล ได้ให้คำแนะนำว่า คนส่วนใหญ่ต้องการมีสุขภาพผิวที่ดี แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เราต่างดูแลผิวกัน โดยมุ่งความสำคัญไปที่การบำรุงผิวมากกว่าการปกป้องผิวโดยใช้ครีมบำรุงสำหรับผิวแพ้ง่าย โดยหารู้ไม่ว่า ผิวของเราถูกทำร้ายจากสิ่งเร้าภายนอกอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะแสงแดดที่มีรังสีอุลตร้า- ไวโอเลต หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า รังสียูวี ซึ่งประกอบไปด้วย รังสี UVA, UVB และ UVC ซึ่งต่างกันที่ช่วงความยาวคลื่นแสงอุลตราไวโอเลต (UVL=Ultraviolet light) ซึ่งแบ่งเป็น ultraviolet A (UVA wavelength 320-400nm), ultraviolet B (UVB wavelength 280-320nm) และ ultraviolet C (UVC wavelength 190-280 nm) ซึ่งเฉพาะ UVA และ UVB (>290nm) เท่านั้นที่ส่องมาถึงพื้นโลก ส่วน UVC ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมากต่อนิวเคลียสของเซลล์ จะถูกกรองโดย โอโซนในบรรยากาศชั้น stratosphere ทำให้ไม่สามารถผ่านมาถึงพื้นโลกได้ รังสี UVB มีความยาวคลื่นสั้น (280-320nm ) มีผลต่อเซลล์ผิวหนังกำพร้าที่อยู่ชั้นนอกสุด ทำให้เกิดแดดเผา (Sunburn) มีผิวสีคล้ำ และถ้าถูกแสงแดดเป็นเวลานานๆ ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ สำหรับรังสี UVA นั้น จัดได้ว่าเป็นรังสีที่มีช่วงคลื่นความยาวมาก (320-400nm) สามารถทำอันตรายต่อผิวได้มากที่สุด ที่สำคัญสามารถ ทำลายทะลุทะลวงถึงผิวหนังชั้นใน ทำลายเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอีลาสตินไฟเบอร์ ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นเป็นริ้วรอยตีนกาได้ง่าย นอกจากนี้ยังทำให้เกิดผิวสีที่ผิดปกติเป็นรอยด่างดำไม่สม่ำเสมอ ซึ่งการทำลายผิวหนังที่เกิดจากทั้ง UVA และ UVB สามารถมองเห็น ได้ในบริเวณที่ถูกแดดเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่ช้ชีวิตกลางแจ้งมาก การทำร้ายเซลล์ผิวของรังสี UV จากแสงแดดต่อผิวหนังนั้น เป็นผลสะสมในระยะยาว มีการศึกษาว่าปริมาณแสงแดด 80% ที่คนเราได้รับตลอดทั้งชีวิตนั้น ได้มาตั้งแต่ช่วงอายุ 18 ปีแรกของชีวิต จึงอยากแนะนำว่าในเด็ก ก็ควรปกป้องผิวหนังจากแสงแดดโดยใช้ครีมกันแดดเช่นเดียวกัน