นัดพบแพทย์

ภัยร้าย! ไวรัสตับอักเสบ ซี

13 Sep 2016 เปิดอ่าน 1957

  จากรายงานสถานการณ์โรคที่ต้องเฝ้าระวัง พบผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี ได้บ่อยที่สุดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองลงมาคือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และ ภาคใต้ ตามลำดับ
       
       ไวรัสตับอักเสบ คือ ไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคตับ ทำให้มีการอักเสบภายในเนื้อตับ ซึ่งมีหลายชนิด ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบชนิด เอ บี ซี ดี และ อี เป็นต้น โดยพบว่าการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ยังเป็นปัญหาที่สำคัญในประเทศไทย ทำให้เกิดภาวะตับอักเสบเรื้อรัง จนผู้ป่วยบางรายมีการดำเนินโรคจนเกิดตับแข็ง ที่ร้ายกว่านั้นพบว่าผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรัง จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับ
       ไวรัสตับอักเสบ ซี สามารถติดต่อจากผู้ป่วยที่เป็นพาหะได้หลายทาง ได้แก่ การฉีดสารเสพติดเข้าร่างกายโดยใช้เข็มร่วมกัน การสักผิวหนัง การรับเลือดและผลิตภัณฑ์จากเลือดจากผู้บริจาคเลือดที่เป็นพาหะ ซึ่งพบเหตุการณ์ดังกล่าวในช่วง 20 ปีก่อน เนื่องจากในขณะนั้นยังไม่มีการตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัสชนิดนี้ แต่ในปัจจุบัน ธนาคารเลือดของโรงพยาบาลศิริราช และสภากาชาดไทยได้มีการตรวจคัดกรองเลือดทุกถุง ว่าไม่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ก่อนที่จะนำมาให้ผู้ป่วย นอกจากนี้ยังพบว่าไวรัสตับอักเสบซีสามารถติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และจากมารดาที่เป็นพาหะสู่ทารกขณะคลอด
       
       เนื่องจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีส่วนใหญ่มักผ่านผิวหนังหรือเยื่อเมือกของร่างกายบริเวณที่มีบาดแผล ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ของมีคมร่วมกัน เช่น อุปกรณ์ที่ใช้โกนหนวดและขน กรรไกรตัดเล็บ และเครื่องมือทำความสะอาดช่องปากและฟัน เป็นต้น
       ที่สำคัญ ไวรัสตับอักเสบ ซี ไม่ติดต่อจากการสัมผัส การรับประทานอาหาร และดื่มน้ำ ร่วมกัน
       
       ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีส่วนใหญ่ มักไม่มีอาการทางคลินิก กว่าจะรู้ตัวก็อาจลุกลาม และนำไปสู่โรคร้ายได้ แต่หากมีอาการอ่อนเพลียก็ให้พักผ่อน และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หลีกเลี่ยงการใช้ยาและอาหารเสริมที่ไม่จำเป็น ผู้ป่วยสามารถออกกำลังกายได้
       
       ปัจจุบันมียารักษาการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรัง ซึ่งสามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยผลตอบสนองขึ้นกับสายพันธุ์ของไวรัส
       อย่างไรก็ดี การป้องกันการติดเชื้อ ยังเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น เพราะยังมีแนวโน้มที่จะพบการติดเชื้อเพิ่มขึ้น สำหรับกลุ่มเสี่ยง คือ ไม่แนะนำให้ใช้มีดโกนหนวด หรือแปรงสีฟันร่วมกัน ห้ามใช้อุปกรณ์ในการสัก การเจาะร่วมกับผู้อื่น รวมถึงควรใช้ถุงยางอนามัยหากมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ และเพื่อให้ห่างไกลจากไวรัสตับอักเสบ ซี ผู้ที่มีลักษณะเสี่ยงดังกล่าว ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดค้นหาการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ 

รศ.นพ.พูลชัย จรัสเจริญวิทยา

* ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9570000109305