โรคภูมิแพ้เป็น”กลุ่ม”ของโรคที่เกิดจากการที่ร่างกายมีปฏิกิริยาไวเกินต่อสารก่อภูมิแพ้ชนิดที่ตัวเองแพ้ ปัจจุบันโรคภูมิแพ้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาการของโรคภูมิแพ้เป็นได้หลายอวัยวะ ผู้ป่วยบางรายมีอาการแค่อวัยวะเดียว แต่บางรายอาจเป็นหลายอวัยวะพร้อมกัน เช่น เป็นแพ้อากาศร่วมกับหอบหืด ความรุนแรงมีได้ตั้งแต่อาการน้อยๆ จนถึงขั้นรุนแรงจนทำให้เสียชีวิตได้เลย
จากสถิติ พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม มักจะรับการรักษาเป็นครั้งๆ เพื่อบรรเทาอาการเมื่อมีอาการกำเริบ ทำให้ไม่สามารถควบคุมโรคได้ ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนระยะยาว หรือทำให้ต้องขาดโรงเรียนบ่อยๆ มีค่าใช้จ่ายมากกรณีที่ต้องนอนรพ.
วัตถุประสงค์ในการรักษาโรคภูมิแพ้ คือ ต้องควบคุมให้ผู้ป่วยไม่มีอาการโดยใช้ยาในปริมาณที่น้อยที่สุด เด็กไม่ขาดโรงเรียน สามารถเล่นและทำกิจกรรมได้เหมือนเด็กทั่วไปได้
แนวทางการดูแลเด็กที่เป็นภูมิแพ้ มีขั้นตอนดังนี้
1.ประเมินความรุนแรงของโรคภูมิแพ้หลักที่มาปรึกษาแพทย์
2.ประเมินว่าผู้ป่วยมีอาการภูมิแพ้ที่อวัยวะอื่นร่วมด้วยหรือไม่ ถ้ามี ต้องให้การรักษาไปพร้อมกัน
3.ให้ยารักษาภูมิแพ้ตามความรุนแรงของโรค
4.สอนวิธีการใช้ยา และอุปกรณ์ต่างๆ
5ให้คำแนะนำในการปรับปรุงสิ่งแวดล้อมในบ้านเพื่อลดการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้
6.ประเมินว่าในครอบครัวมีคนอื่นที่สงสัยว่าจะเป็นภูมิแพ้ด้วยหรือไม่
7.ติดตามผลการรักษาเพื่อปรับขนาดยาให้เหมาะสม
8.กรณีที่เป็นหอบหืด ควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคไอพีดี(จำนวนเข็มในการฉีดขึ้นกับอายุที่เริ่มฉีดวัคซีนครั้งแรก)และไข้หวัดใหญ่ทุกปี
หากท่านมีบุตรหลานที่มีอาการที่สงสัยว่าจะเป็นภูมิแพ้ สามารถพามาปรึกษาได้ครับ