นัดพบแพทย์

โรคฮิตคนออฟฟิต "หมอนรองกระดูกเคลื่อน"

14 Sep 2016 เปิดอ่าน 2327

หมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับเส้นประสาท นับว่า เป็นโรคที่ก่อให้เกิดความวิตกกังวลกับคนวัยทำงานมากขึ้น

เช่น พอเอี้ยวตัวยกของผิดจังหวะ ผิดท่า มีอาการปวดหลัง ปวดสะโพก ฝืนทำบ่อยๆ เข้า บ้างก็มีอาการชาไปที่ขา บางทีก็ไปที่เท้า นั่งทำงานไม่ได้ ยืนไม่ได้นาน เดี๋ยวก็มีอาการชา หรือปวดร้าวไปที่ขา ทิ้งไว้นานเข้า เริ่มมีอาการเดินเอียงๆ  พอลองยืนใส่กางเกงด้วยขาข้างเดียว ก็ทำไม่ได้ ต้องนั่งใส่ เพราะไม่มีแรงจะทรงตัว ไปหาหมอ เอกซเรย์แม่เหล็ก(MRI)หมอบอกว่า เป็นโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อน เป็นที่กระดูกสันหลังปล้องที่ 4 ที่ 5 ต้องผ่าตัดไม่อย่างนั้นเดี๋ยวขาจะลีบ

 สมัยนี้ความเจริญทางการแพทย์มีทางเลือกสำหรับการรักษาหลายทางโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมอนกระดูกสันหลังที่เพิ่งจะเริ่มมีอาการ หรือมีอาการไม่นาน

 การรักษาโดยการใช้ยา นับเป็นการรักษาที่ไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย โดยการให้ยาลงไปยังตำแหน่งที่มีอาการอักเสบของเส้นประสาท อันเกิดจากหมอนรองกระดูกเคลื่อนไปกดทับ ก็เหมือนกับจะยิงลูกศรที่ต้องแม่นยำ ให้ตรงตำแหน่ง ตรงใจกลางของบริเวณที่มีปัญหา ฤทธิ์ของยาจึงจะมีประสิทธิภาพที่สูงสุด ได้ผลที่แน่นอน จึงเป็นที่มาของการฉีดยาเข้าไปยังบริเวณหมอนรองกระดูกที่เคลื่อน และบริเวณที่มีอาการอักเสบ เรียกว่า การฉีดยาระงับการอักเสบเข้าไปที่ช่องสันหลัง (Epidural Spinal Injection) ที่ได้รับการยอมรับกันทั่วโลก

 จะว่ากันไปแล้ว นับว่าเป็นการให้ทางเลือกอีกทางหนึ่งสำหรับคนที่เป็นโรคนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจทำการผ่าตัดหมอนรองกระดูก วิธีการไม่ได้ยุ่งยากแต่อย่างใดครับ ไม่ต้องนอนในโรงพยาบาล วิธีการนี้ใช้เวลาประมาณ 5 - 10 นาที ก็เสร็จสมบูรณ์ หลังฉีดเสร็จสามารถกลับไปทำงาน ขับรถได้ตามปกติ ค่าใช้จ่ายก็ไม่สิ้นเปลือง เพราะไม่ต้องนอนในโรงพยาบาล ไม่ต้องทำในห้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เอกซเรย์ หรือฉีดสีให้ยุ่งยาก และไม่ต้องเสี่ยงต่อการแพ้สารทึบรังสี

 การตอบสนองต่อการรักษา หรือฉีดยาแล้วอาการปวดทุเลาลงมากถึง 70% การฉีดยาไม่ได้เจ็บปวดอะไรนัก เพราะใช้ยาชาเฉพาะที่ช่วย ร่วมกับการรักษาโดยการทำกายภาพบำบัด ปรับท่าทางการใหม่ให้ถูกท่าทาง ฝึกกล้ามเนื้อหน้าท้อง และกล้ามเนื้อหลัง ให้มีการทำงานสัมพันธ์กัน ประกอบกับต้องกลับไปจัดที่ทำงานใหม่ ปรับที่นั่งให้เหมาะสม ไม่นั่งติดต่อกันนานโดยไม่ได้ลุกขึ้นเปลี่ยนอิริยาบท สิ่งเหล่านี้จะทำให้หมอนรองกระดูกอยู่รับใช้เราได้อีกนานเท่านาน

ผศ.นพ.จิระเดช  ตุงคะเศรณี

* ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.komchadluek.net/news/unclecham/41199