ความเชื่อที่ 1
ผู้หญิงหน้าอกเล็กมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งน้อยกว่า
ความจริง
หน้าอกคนเราประกอบไปด้วยส่วนของเนื้อเยื่อต่อมน้ำนม/ท่อน้ำนม ซึ่งสามารถเกิดมะเร็งได้ และอีกส่วนหนึ่งคือเนื้อเยื่อไขมันซึ่งไม่เกิดมะเร็ง ซึ่งหญิงที่มีหน้าอกเล็กมักจะมีส่วนไขมันน้อย แต่ส่วนต่อม/ท่อน้ำนมมีปริมาณปกติ โอกาสเกิดมะเร็งเต้านมจึงอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยทั่วๆ ไป ส่วนผู้หญิงหน้าอกใหญ่ต้องมาพิจารณาก่อนว่าใหญ่เพราะอะไร หากใหญ่เพราะมีเนื้อเยื่อไขมันมาก แต่ยังมีต่อม/ท่อน้ำนมเท่าเดิม โอกาสเกิดมะเร็งเต้านมก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากเนื้อเยื่อไขมันไม่เป็นมะเร็งตามที่กล่าวไว้ตอนต้น แต่ในกรณีที่หน้าอกใหญ่เพราะอัดแน่นไปด้วยเนื้อเยื่อต่อม/ท่อน้ำนม ทางการแพทย์เรียกว่า dense breast tissue ซึ่งจะบอกได้จากการทำแมมโมแกรม โอกาสเกิดมะเร็งเต้านมก็จะเพิ่มขึ้นจากเกณฑ์เฉลี่ยเกือบเท่าตัว
ความเชื่อที่ 2
ผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นกายใต้วงเขียนมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม
ความจริง
ศูนย์มะเร็งแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงการใช้ผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นกายใต้วงเขียนกับการพัฒนาของเชื้อมะเร็ง
ความเชื่อที่ 3
การใส่เสื้อชั้นในที่มีลวดข้างในจะเพิ่มเปอร์เซ็นต์การเป็นมะเร็งเต้านม
ความจริง
ศูนย์มะเร็งแห่งชาติ และสมาคมโรคมะเร็งแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาปฏิเสธความเชื่อที่ว่า จำนวนผู้ไม่สวมใส่เสื้อชั้นในมีโอกาสเป็นมะเร็งน้อยกว่าคนที่ใส่เสื้อชั้นใน
ความเชื่อที่ 4
การทานวิตามินเสริม กระตุ้นให้เกิดมะเร็งเต้านม
ความจริง
การทานวิตามินที่กระตุ้นฮอร์โมนเอสโตรเจน หรือฮอร์โมนเสริมในสตรีวัยทอง อาจทำให้มะเร็งบางชนิดเจริญเติบโตได้
ความเชื่อที่ 5
การทำศัลยกรรมเต้านม ทำให้เป็นมะเร็งเต้านม
ความจริง
การเสริมเต้านมโดยการใส่ซิลิโคนหรือถุงน้ำเกลือไปใต้ชั้นผิวหนัง ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเต้านม
แต่การฉีดฟิลเล่อร์ ฟาราฟิน และซิลิโคนเข้าไปที่เนื้อเต้านมโดยตรง ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นสาเหตุของมะเร็งเต้านม
ความเชื่อที่ 6
รังสีจากการตรวจเต้านมมีอันตรายต่อร่างกาย
ความจริง
ต้องตรวจเต้านมถึง 100 ครั้ง ปริมาณรังสีที่ร่างกายได้รับจึงจะเริ่มเข้าข่ายต้องเฝ้าระวัง
ความเชื่อที่ 7
การกดทับจากเครื่องแมมโมแกรม ทำให้เต้านมอักเสบและกระตุ้นให้เกิดมะเร็งเต้านม
ความจริง
เครื่องดิจิตอลแมมโมแกรมปัจจุบันช่วยลดการกดทับที่รุนแรง และบริเวณเต้านมไม่มีต่อมน้ำเหลืองที่จะได้รับผลกระทบจากการกดทับ การตรวจแมมโมแกรมจึงมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย
ความเชื่อที่ 8
ตรวจแมมโมแกรมอย่างเดียวก็เพียงพอ
ความจริง
แมมโมแกรมอย่างเดียวไม่เพียงพอ เพราะการตรวจแมมโมแกรมเพียงอย่างเดียวมีความแม่นยำประมาณ 80% ซึ่งก้อนเนื้อขนาดเล็กๆ อาจตรวจไม่พบ จึงแนะนำให้ทำอัลตราซาวด์ควบคู่ไปด้วยเพื่อเพิ่มความแม่นยำขึ้นเป็น 85-90% และหากร่วมกับการตรวจเต้านมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ความแม่นยำจะอยู่ที่ประมาณ 99%
ความเชื่อที่ 9
ผู้ชายไม่เป็นมะเร็งเต้านม
ความจริง
ผู้ชายก็เป็นมะเร็งเต้านมได้หากตกอยู่ในภายกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ที่มีอายุมาก น้ำหนักเกินมาตรฐาน ตับแข็ง หรือมีลักษณะเต้านมเหมือนผู้หญิง
ความเชื่อที่ 10
ผู้หญิงที่มีประวัติโรคมะเร็งในครอบครัวเท่านั้น ที่จะตกอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม
ความจริง
70% ของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมไม่มีความเสี่ยงใดๆ ชัดเจน
ความเชื่อที่ 11
“ซีสต์” ปล่อยทิ้งไว้จะกลายเป็นมะเร็ง
ความจริง
ซีสต์ หรือ ถุงน้ำ เกิดจากอิทธิพลของฮอร์โมนเอสโตเจน ไม่ใช้ความผิดปกติที่ตัวเซลล์ จึงไม่มีความเสี่ยงที่จะพัฒนาเป็นมะเร็ง แต่มะเร็งบางชนิดมีรูปร่างเหมือนซีสต์ จึงอาจทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนได้
ความเชื่อที่ 12
การมีก้อนเนื้อในเต้านมหมายความว่าเป็นมะเร็ง
ความจริง
ก้อนเนื้อที่พบในเต้านมของผู้หญิงประมาณ 80% มักเป็นชนิดไม่ร้ายแรง เช่น เนื้องอกธรรมดา หรือซีสต์ นอกเหนือจากนี้ยังอาจเกิดจากโรคหรือการเปลี่ยนแปลงของร่างกายอย่างอื่นๆ
ความเชื่อที่ 13
กลัวว่าเมื่อตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมแล้วจะเจอก้อนและเป็นทุกข์ จึงไม่ยอมตรวจและขอตายพร้อมมะเร็งดีกว่า
โดย : นพ. ชินวัตร วิสุทธิแพทย์
ขอบคุณบทความจาก : https://www.samitivejhospitals.com/th/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%86%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%89/