นัดพบแพทย์

ACP เทคนิคฟื้นฟูข้อ เอ็น กล้ามเนื้อ...ด้วยเกล็ดเลือด

11 Mar 2025 เปิดอ่าน 80

ในชีวิตประจำวันเรามีการเคลื่อนไหวแทบตลอดเวลา กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และผิวข้อ…ที่ถูกใช้งานยาวนานต่อเนื่องจึงเกิดความเสื่อมขึ้นได้เมื่อเข้าสู่ภาวะสูงวัย หรือในผู้ที่ชื่นชอบกีฬาและกิจกรรมผาดโผน โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุจนทำให้ร่างกายบาดเจ็บก็เป็นเรื่องที่ควบคุมได้ยาก และเมื่อไม่สามารถป้องกันความเสี่ยงได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แนวทางการรักษา…จึงเป็นอีกหัวใจหลักที่สำคัญไม่แพ้กัน

รู้ไหม? รักษาอาการบาดเจ็บ…ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเสมอไป

แนวทางการรักษาอาการบาดเจ็บในปัจจุบันมีทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ หากไม่ถึงขั้นฉีกขาดรุนแรง แพทย์มักแนะนำให้รักษาโดยการกินยาลดการอักเสบและฉีดรักษา ซึ่งสามารถฉีดรักษาได้หลายตำแหน่ง ทั้งบริเวณหัวไหล่ ข้อศอก กระดูกสะบ้า หัวเข่า ข้อเท้า ไปจนถึงบริเวณที่มีพังผืดเกาะ ทั้งยังให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ช่วยลดอาการบาดเจ็บและอักเสบได้เป็นอย่างดี โดยการฉีดรักษาจะมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ คือ

  • ฉีดสเตียรอยด์
  • ฉีดน้ำข้อเข่า
  • ฉีด ACP

การฉีด ACP เทคนิคฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ…ด้วยเกล็ดเลือด

สำหรับหนึ่งในการฉีดรักษา ที่เรียกว่า ACP เป็นการนำเลือดของคนไข้มาใช้ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น จึงนับว่าเป็นวิธีรักษาที่ร่างกายยอมรับได้ โดยมีหัวใจสำคัญเป็นสารชีวภาพหรือเกล็ดเลือดเข้มข้น ซึ่งแพทย์จะทำการเจาะเลือดจากบริเวณหลังมือ หรือข้อพับแขนของคนไข้ออกมาประมาณ 11-22 ml. (ขึ้นอยู่กับอาการบาดเจ็บ) ก่อนจะนำไปปั่นคัดแยกเอาน้ำเลือด กับเม็ดเลือดแดงและขาว (ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้เกิดการอักเสบ) ออกจากกัน โดยยังคงสารชีวภาพภายในเกล็ดเลือดไว้ให้มากที่สุด

Cold brew คงอุณหภูมิรอบปั่น รักษาเกล็ดเลือดสำคัญช่วยฟื้นฟูการบาดเจ็บ

ภายในเกล็ดเลือดจะประกอบไปด้วยสารชีวภาพสำคัญที่มีผลต่อการซ่อมแซมและฟื้นฟูการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น แต่สารสำคัญเหล่านั้นมักถูกทำลายไปในระหว่างขั้นตอนปั่นคัดแยก ซึ่งทางการแพทย์ในปัจจุบันได้มีการใช้เครื่องปั่นคัดแยกที่ช่วยคงคุณสมบัติต่างๆ ภายในเกล็ดเลือดได้อย่างค่อนข้างสมบูรณ์ โดยแพทย์สามารถกำหนดความเข้มข้นของเกล็ดเลือดได้ตามต้องการ พร้อมควบคุมอุณหภูมิระหว่างการปั่น เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อสารชีวภาพของเกล็ดเลือด จึงช่วยรักษาสารสำคัญต่างๆ ภายในเกล็ดเลือดไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การฉีด ACP เทคนิคนี้…มีดียังไง?

เมื่อร่างกายได้รับสัญญาณว่าร่างกายเกิดการบาดเจ็บ กระบวนการซ่อมแซมตามธรรมชาติก็ได้เริ่มต้นขึ้น แต่เมื่อสัญญาณดังกล่าวถูกระงับชั่วคราวด้วยยาสเตียรอยด์ ทำให้กระบวนการซ่อมแซมนั้นหยุดชะงักไป และจะเริ่มกลับมาซ่อมแซมตัวเองอีกครั้งหลังหมดฤทธิ์ยา นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมอาการปวดถึงกลับมาซ้ำๆ ย้ำอยู่ที่เดิม ไม่หายขาด

 

ต่างกับการฉีด ACP ที่เป็นการรักษาอาการบาดเจ็บหรืออักเสบเรื้อรังด้วยเกล็ดเลือดของคนไข้เอง เพราะในเกล็ดเลือดมีส่วนที่เรียกว่า Growth Factor เป็นสารประกอบที่ช่วยกระตุ้นเซลล์รอบๆ บริเวณที่บาดเจ็บให้เกิดกระบวนการฟื้นฟูตามกลไกธรรมชาติได้ไวและดีขึ้น ทั้งยังให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพต่อคนไข้ในระยะยาว ดังนี้

  • ไม่มีสารสังเคราะห์ตกค้างในร่างกาย
  • ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ หรือผลข้างเคียงหลังรักษา
  • ให้ผลการฟื้นฟูดีขึ้นต่อเนื่อง เพราะเป็นกระบวนการซ่อมแซมตามธรรมชาติร่างกาย

โดยคนไข้มักจะรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ฉีด ACP ครั้งแรก และเห็นผลการรักษาดีขึ้นในเรื่อยๆ ในแต่ละครั้ง ส่วนของการดูแลตัวเองหลังฉีด ACP แพทย์จะแนะนำให้คนไข้ประคบเย็น และลดการใช้งานบริเวณที่ฉีดไปประมาณ 2-3 วัน พร้อมกลับมาประเมินผลการรักษาประมาณ 1 เดือน

 

สำหรับผู้ที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ก็สามารถรักษาอาการบาดเจ็บ หรืออักเสบเรื้อรังด้วยการฉีด ACP ได้ หากแต่อาจได้ปริมาณของสารชีวภาพที่ค่อนข้างน้อย ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้อธิบายให้คนไข้เข้าใจ และตัดสินใจก่อนรักษาเสมอ ดังนั้น การฉีด ACP จึงถือเป็นทางเลือกที่ให้ประโยชน์กับคนไข้ เพราะช่วยจบทุกความเจ็บได้เป็นอย่างดี

 
 

นพ. พฤฒพงศ์ แสงจำรัส

ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิคส์
ศูนย์กล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ โรงพยาบาลพญาไท 2