นัดพบแพทย์

รู้จักตับ – รักษ์ตับ

28 Sep 2016 เปิดอ่าน 2337

ตับเป็นอย่างไร อยู่ตรงไหน

รู้หรือไม่ ตับของเราเป็นอวัยวะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดรองจากปอด แต่หนักที่สุด คือ ประมาณกิโลกว่า ๆ ตามแต่ขนาดของร่างกายคนนั้น ๆ รูปร่างเป็นสามเหลี่ยมถ้ามองจากด้านหน้า ท่านลองก้มหน้ามองที่หน้าท้องของตัวเอง เอาฝ่ามือขวาวางคร่อมตรงชายโครงและหน้าท้องซีกขวาทางด้านหน้า เอาปลายนิ้วกลางไว้ตรงลิ้นปี่ ตรงแถวนั้นเอง ลึกลงไปในช่องท้องใต้ฝ่ามือ เป็นที่ที่ตับซ่อนอยู่ รู้หรือไม่ถ้ามีความจำเป็นต้องตรวจเนื้อตับ หมอจะเจาะตับผ่านผิวหนัง เข้าทางช่องระหว่างชายโครงขวา ทางด้านข้างลำตัว เมื่อตับเราใหญ่ขนาดนี้ หมอเลยเจาะกันไม่ค่อยพลาด

ในตับมีอะไรอยู่

จริง ๆ แล้วท่านหาตับหมูมาดูก็ได้ เพียงแต่รูปร่างไม่เหมือนกัน ถ้าดูด้วยตาเปล่าจะเห็นตับมีสีแดง ผิวเรียบ มีเส้นเลือดดำใหญ่วิ่งตรงมาจากทางเดินอาหารที่เรียกว่า พอร์ตอล นั่นหมายถึง สารอาหารต่าง ๆ ที่เราทานเข้าไปก็มีทางออกรวมกันทางส่วนบนของตับวิ่งเข้าสู่หัวใจ ใกล้ ๆ เส้นเลือดทุกเส้นก็จะมีท่อน้ำดีขนาดเล็ก รวมตัวกันเป็นท่อขนาดใหญ่ขึ้นวิ่งออกไปทางด้านล่างของตับ ข้าง ๆ ท่อน้ำดีก็ยังมีถุงน้ำดีอยู่แถว ๆ ใต้ตับเช่นกัน ซึ่งจะมีท่อเล็ก ๆ ยื่นออกมาต่อกับท่อน้ำดี จากนั้นท่อน้ำดีรวมก็จะไปเปิดก๊อกให้น้ำดีออกแถว ๆ ลำไส้เล็กส่วนต้น น้ำดีที่กล่าวถึงเป็นที่รวมของดีและของเสียที่ร่างกายขับทิ้งออกทางตับ น้ำดีมีสีออกเหลือง ๆ เขียว ๆ น้ำดีที่ไหลออกมาส่วนหนึ่งจะไปเก็บไว้ที่ถุงน้ำดี ซึ่งจะถูกบีบตัวเอาออกมาใช้ช่วยย่อยอาหารพวกไขมันในช่วงหลังอาหาร

ข้างในตับก็จะมีเนื้อตับ ถ้าหากเอากล้องจุลทรรศน์ส่องดูจะเห็นส่วนประกอบเล็ก ๆ ที่เรียกว่า เซลล์ ที่จริงแล้วที่ตรงไหนของร่างกายก็ประกอบด้วยเซลล์ แต่เซลล์ของตับจะมีรูปร่างเฉพาะ เรียงตัวกันเป็นแถวเป็นกลุ่มอย่างสวยงาม เซลล์ตับก็ทำหน้าที่ของตับไปเรื่อย ๆ นอกจากเซลล์ตับแล้ว ยังมีเซลล์อื่น ๆ อีกหลายชนิดแทรกอยู่ในเนื้อตับ เช่น เม็ดเลือดขาวชนิดต่าง ๆ เป็นต้น มีเซลล์อยู่ชนิดหนึ่ง อยากให้ทำความรู้จักกันไว้สักนิดจะได้ไม่ตกข่าว เป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่สร้างพังผืดหรือเนื้อเยื่อระหว่างเซลล์ของตับ ที่เรียกกันว่า สเตลเลตเซลล์ (Stellate cell) เนื่องจากมันมีรูปร่างเหมือนดาว มีแขนขายื่นออกมารอบ ๆ (Stellate cell) นี้เป็นเซลล์ต้นกำเนิดของเนื้อเยื่อพังผืด ซึ่งมิได้ทำงานใด ๆ แต่จะหดรัดให้เนื้อตับเสียหาย หดเหี่ยวลงจนกลายเป็น “ตับแข็ง”

ตับทำหน้าที่อะไร

ประการแรก ตับทำหน้าที่นำเอาสารอาหารที่ย่อยมาแล้วจากทางเดินอาหาร ไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรต (พวกแป้ง น้ำตาล) ไขมัน โปรตีน (พวกเนื้อต่าง ๆ) วิตามิน ยา หรืออะไรก็ตามที่เราทานเข้าไปมาปรับเปลี่ยนให้เป็นสารอาหารที่เหมาะกับการใช้ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น สร้างโปรตีนอัลบูมิน (โปรตีนไข่ขาว) โปรตีนที่ช่วยการแข็งตัวของเลือด ไขมันในเลือดชนิดต่าง ๆ เป็นต้น ที่น่าสนใจก็คือ ยาต่าง ๆ สมุนไพร วิตามิน อาหารเสริม หรืออะไรก็ตามที่เราทานเข้าไป บางครั้งตับก็เลือกไม่ถูกว่าที่ทานเข้าไปมีประโยชน์อะไร ตับก็ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ปรับเปลี่ยนเป็นสารที่เป็นพิษต่อร่างกาย ต่อตับเองจนเกิดตับอักเสบ เป็นอันตราย ที่ถูกที่ควรคืออย่าไปหาอะไรทานสุ่มสี่สุ่มห้า อะไรที่ไม่ใช่อาหารปกติก็อย่าเที่ยวไปหาทาน เช่น มะรุมที่ไปทานเป็นเม็ด เป็นแคปซูล เป็นยาต้ม เป็นสาเหตุของโรคตับที่รุนแรงได้เช่นกัน

ประการที่สอง ตับทำหน้าที่สะสมอาหารต่าง ๆ เอาไว้ใช้เมื่อร่างกายต้องการ เช่น เก็บน้ำตาลกลูโคสในรูปของไกลโคเจนสะสมไว้ในตับ เมื่อร่างกายต้องการพลังงานก็จะเปลี่ยนไกลโคเจนกลับมาเป็นกลูโคส ส่งไปที่ต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อเอาไปใช้เป็นพลังงานต่อไป ผู้ป่วยที่ตับอักเสบขั้นรุนแรงจะมีน้ำตาลในเลือดต่ำเลยเป็นที่มาของคำพูดที่ว่า เป็นโรคตับให้ทานน้ำหวาน ซึ่งที่จริงแล้วจะต้องทานต่อเมื่อตับเสียไปมาก ๆ ตอนระยะท้าย ๆ ของโรคตับ ฉะนั้นอย่าไปทานน้ำหวานกันโดยไม่จำเป็น

ประการที่สาม ตับทำหน้าที่ขับถ่ายของเสียในรูปของน้ำดี ออกมาทางท่อน้ำดี แล้วลงไปออกที่ลำไส้เล็กส่วนต้น น้ำดีนอกจากจะเป็นของเสียที่ร่างกายขับออกมาแล้ว ยังมีน้ำที่เป็นของดีปนอยู่ด้วย (ด้วยเหตุฉะนี้กระมัง เลยเรียกน้ำเขียว ๆ เหลือง ๆ ที่ออกมาจากตับว่า “น้ำดี”) ที่ว่ามีของดีปนออกมาก็เพราะว่าน้ำดีนั้นใช้ช่วยในการย่อยอาหารประเภทไขมัน ช่วยในการดูดซึมวิตามินที่ต้องใช้ไขมันร่วมด้วย คือ วิตามิน เอ ดี อี และ เค คนที่ท่อน้ำดีอุดตันก็จะมีตาเหลือง ตัวเหลือง คันผิวหนังเพราะของเสียสารสีเหลืองคั่งใต้ผิวหนัง ขับออกมาไม่ได้ นาน ๆ เข้าอุจจาระจะสีซีด ท้องเสียเวลาทานของมัน ขาดวิตามินที่เห็นชัดเห็นผลเร็วก็คือ การขาดวิตามินเค (K) เลือดจะแข็งตัวไม่ดี เลือดออกแล้วไหลไม่หยุด

ถึงเวลานี้คงจะจินตนาการภาพของตับออกได้บ้าง และพอจะทราบว่าตับสำคัญต่อร่างกายอย่างไรพอเป็นสังเขป แต่ก็เพียงพอที่จะรัก รักษ์ตับ ถนอมตับ ให้ปลอดจากสารพิษ อาหารพิษ สารพิษเจือปนในอาหาร ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบทุกตัวที่มี เพื่อถนอมตับให้อยู่ดี มีคุณภาพ ตลอดชั่วอายุขัย

’ทานอาหารดีมีประโยชน์เสมือนหนึ่งยาบำรุง

หรือจะต้องมุ่งทานยาเพื่อบำรุงและรักษาโรค?“

ข้อมูลจาก นายแพทย์ ดร.ปิยะวัฒน์ โกมลมิศร์ ศูนย์โรคตับ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

* ขอบคุณข้อมูลจาก : https://ascannotdo.wordpress.com/tag/%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%9A/