WHY DO WE SNORE? : ทำไมเราถึงกรน?
กลไกของการหายใจมีอยู่ 2 ส่วน คือทางเดินหายใจส่วนล่าง (ปอด) กับทางเดินหายใจส่วนบน (ปาก คอ) ปกติเวลาคนเรานอนหลับกล้ามเนื้อปากและคอจะคลายตัว ทำให้ทางเดินหายใจแคบลงกว่าเดิม การหายใจก็จะลดลง ในจังหวะนั้นถ้าเกิดกล้ามเนื้อเราหย่อนมากเกนไป หรือลิ้นลงไปอุดทางเดินหายใจ หรือคอเราหนา หรือคางเราสั้น หรือต่อมทอนซิลโตจนไปอุดทางเดินหายใจ ก็จะเกิดเสียงกรนขึ้นมาได้
LOUDER and LOUDER : ยิ่งกรนยิ่งดัง
สิ่งต่อไปนี้ทำให้คนที่นอนกรนอยู่แล้ว ยิ่งกรนได้ดังขึ้นไปอีก
• ดื่มแอลกอฮอล์
• ร่างกายเพลียและหลับลึกมากๆ
• นอนหงาย
BAD RESULT : ผลเสียของการกรน
เมื่อทางเดินหายใจส่วนบนแคบลงก็อาจทำให้ทางเดินหายใจอุดตันขึ้นได้ ซึ่งสังเกตได้จากเสียงกรนที่ดังต่อเนื่องจะหยุดลงแป๊บนึง จังหวะนี้ร่างกายต้องใช้แรงในการหายใจเยอะ เลือดขาดออกซิเจนชั่วคราว ทำให้เราตื่นกะทันหันและอาจหลับต่อไม่ได้ ซึ่งอาการนี้เกิดได้บ่อยๆ ทั้งคืนทำให้มีผลเสียตามมาหลายอย่าง
• ระดับออกซิเจนในเลือดที่ต่ำเป็นช่วงๆ ทำให้เรามีโอกาสเกิดความดันโลหิตสูง ยิ่งถ้าคุณสูบบุหรี่ มีไขมันในเลือดสูง หรือเป็นโรคความดันอยู่แล้ว งานนี้อาจเกิดเส้นเลือดในสมองตีบและแตกเอาได้ง่ายๆ
• เมื่อคุณนอนหลับไม่สนิทมาทั้งคืน พอตื่นมาทำงานก็จะง่วงตลอดทั้งวัน
• ใครที่ต้องขับรถก็ซวยหน่อย เพราะเมื่อนอนไม่พอก็อาจหลับในได้ตลอดเวลา ถ้าพลาดขึ้นมาก็มีสิทธิ์ตายได้ทุกวินาที
• ข้อนี้เห็นได้ชัดที่สุด ไม่มีใครอยากนอนใกล้คนกรนหรอก ยิ่งกรนดังคุณก็จะยิ่งกลายเป็นคนเพื่อนน้อยไปโดยปริยาย...ช่วยไม่ได้จริงๆ
OTHER PROBLEMS : ปัญหาการนอนอื่นๆ
นอกจากการกรนแล้ว ยังมีปัญหาที่เกิดขึ้นกับการนอนอีกเพียบ
นอนกัดฟัน
จากการศึกษาพบว่า คนยิ่งเครียดมากก็มีสิทธิ์จะนอนกัดฟันมากตามไปด้วย ซึ่งผลเสียคือฟันจะสึกเร็วกว่าปกติ ปัญหานี้แก้ได้โดยการลดความเครียด แต่ถ้าแก้ไม่ได้จริงๆ ก็ต้องใส่ฟันยางนอน!
นอนไม่หลับ
เรื่องนี้เป็นปัญหายอดนิยมซึ่งมีสาเหตุจากปัจจัยหลายๆ อย่างมาประกอบกัน ไม่ว่าจะเรื่องทางกาย ความเครียด นิสัยการนอน ความเคยชิน ฯลฯ
ฝันเปียก
เรื่องนี้เกิดจากปริมาณอสุจิที่ร่างกายกักตุนไว้เยอะเกินไปแล้วไม่ได้ระบายออก เมื่อผสมกับอารมณ์และความหมกมุ่นก็มีโอกาสจะทำนบแตกระหว่างนอนหลับได้
SNORE TO DEATH? : ตายเพราะกรน?
โดยปกติแล้วการนอนกรนแล้วหยุดหายใจนั้น มันไม่ได้ร้ายแรงถึงขนาดจะทำให้คนเราตายได้ เพราะเมื่อร่างกายขาดอากาศเราก็จะตื่นเองโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าคุณเป็นโรคหัวใจอยู่ล่ะก็ การหยุดหายใจแบบนี้มันจะทำให้คุณเหนื่อยไม่แพ้การออกไปวิ่งมาราธอน นั่นหมายความว่า...คุณอาจหัวใจวายเฉียบหลันได้เลยทีเดียว !!!
HOW TO STOP SNORING : วิธีรักษาอาการกรน
นี่คือวิธีลดการกรนที่คุณหมอใช้อยู่ในตอนนี้
• ลดน้ำหนักซะ เพราะคนอ้วนจะมีโอกาสกรนมากกว่าคนผอม
• เปลี่ยนมานอนตะแคงกอดหมอนข้าง
• งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอน (ข้อนี้ยากหน่อยนะเพื่อน!)
• ใส่หน้ากากช่วยหายใจระหว่างการนอน (Continuous Positive Airway Pressure, CPAP) โดยคุณสามารถซื้อหามาใช้เองที่บ้าน วิธีนี้ช่วยได้มาก
• ไปตรวจการนอน (Polysomnogram) ที่โรงพยาบาล เพื่อดูจังหวะการหายใจ ลมหายใจที่เข้าออกจากปอด ระดับออกซิเจนในเลือด คลื่นสมอง ฯลฯ แต่คุณต้องไม่ใช่คนมีปัญหาหลับยาก ไม่งั้นจะกลายเป็นว่ามานอนไม่หลับที่โรงพยาบาลซะเปล่าๆ
• การผ่าตัดอาจช่วยแก้การกรนได้บ้าง แต่เรื่องการอุดตันของทางเดินหายใจอาจยังมีอยู่
ใครที่มีปัญหากรนเสียงดังจนสาวคำราญ ก็ลองทำตามคำแนะนำเบื้องต้นของคุณหมอซะ แต่ถ้าทำแล้วยังไม่ดีขึ้น จะลองไปนั่งปรึกษาคุณหมอให้เป็นเรื่องเป็นราวเลยก็ดี...จะได้มีคนอยากนอนด้วย!
สัมภาษณ์ข้อมูลจาก : นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ อายุรแพทย์ด้านโรคระบบทางเดินหายใจ
* ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.fhm.in.th/PICTURE-HOW-TO-STOP-SNORING-FHM77-150818/