นัดพบแพทย์

หัวจ๋า...ผมลาก่อน

25 Aug 2016 เปิดอ่าน 3482

ปัจจุบันจึงมีศูนย์เส้นผมเกิดขึ้นทุกหนแห่งทั้งในห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล หรือศูนย์เส้นผมต่าง ๆ
       ซึ่งล้วนแต่ประกาศตัวช่วยแก้ปัญหาให้ทุกรูปแบบ แถมรับรองผล 100% ก็มี แต่ก่อนที่จะเลือกรับการบริการหรือการรักษาด้วยวิธีใดๆ ลองอ่านรายละเอียดต่อไปนี้ดูก่อน อย่างน้อยก็ช่วยท่านตัดสินใจที่จะรับการบริการหรือรักษาได้ครับ
       
       สาเหตุของผมร่วง เกิดจากหลายปัจจัย
       1. เผ่าพันธุ์ เพศ อายุ
       2. เชื้อโรคที่เล่นงานเส้นผมโดยตรง หรือเป็นผลทางอ้อมคือ เป็นโรคติดเชื้อที่อวัยวะอื่น แล้วทำให้เกิดผมร่วง
       ผิดปกติตามมาภายหลัง
       3. สารเคมี เช่น ยาชนิดต่าง ๆ สารพิษปนเปื้อนในอาหารและน้ำ
       4. โรคตามระบบต่าง ๆ เช่น โรคไตวาย โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
       5. จิตใจที่เศร้าหมองอย่างรุนแรง และเฉียบพลันจนถึงตกใจอย่างรุนแรง เช่น ถูกผีหลอกทำให้ผมร่วง หัวโกร๋น
       
       สำหรับอาหารการกินต่าง ๆ มักจะไม่มีผลต่อภาวะผมร่วง ยกเว้นภาวะทุพโภชนาการครับ
       
       รู้ได้อย่างไรว่าผมร่วงมากผิดปกติ ?
       
ผมหลุดร่วงเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าเส้นผมหลุดร่วงเกิน 100 เส้นต่อวันติดต่อกันนานหลาย ๆ วัน แสดงว่ามีผมร่วงมากผิดปกติ

       
       ภาวะผมร่วง และผมบางลง
       ภาวะผมร่วงเฉพาะที่ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
       1. ผมร่วงหย่อมชนิดไม่มีแผลเป็นที่หนังศีรษะ ที่พบบ่อย ๆ ได้แก่
       1.1 ผมร่วงหย่อมจากเชื้อรา พบมากในเด็ก ผมจะร่วงเป็นกระจุก ผิวหนังในบริเวณที่ผมร่วงจะมีขุยหรือสะเก็ด บางครั้งมีผื่นแดง การรักษา ต้องใช้ยารับประทาน ยาทาไม่สามารถกำจัดเชื้อราได้หมด
       1.2 ผมร่วงหย่อมจากการดึงผมตนเอง พบมากในเด็กที่มีความเครียด และเมื่อไม่มีทางระบายออกจึงดึงผมตนเอง เมื่อใช้มือลองดึงเส้นผมดูเส้นผมจะไม่หลุดติดมือออกมาง่าย ๆ เหมือนโรคผมร่วงจากเชื้อรา การรักษา ต้องอาศัยความเข้าใจถึงสาเหตุการเกิดโรค และเข้าใจปัญหาของผู้ป่วย อาจควรปรึกษาจิตแพทย์ร่วมในกระบวนการ ดูแลรักษาด้วย นอกจากนี้การทายาครีมสเตียรอยด์ ร่วมกับรับประทานยาต้านฮีสตามีนจะช่วยให้อาการดีขึ้น
       1.3 ผมร่วงหย่อมจากโรคภูมิแพ้รากผม ( alopecia areapa) จะมีภาวะระบบภูมิคุ้มกันร่างกายรวน มีเซลล์เม็ดเลือดขาวมารบกวนรากผมทำให้เซลล์รากผมหยุดทำงาน เส้นผมจะหายไปเป็นหย่อม ๆ ผิวหนังบริเวณที่ไม่มีเส้นผมจะเรียบไม่พบตอ เส้นผมหักหรือเป็นตุ่มที่ผิวหนัง

        2. Finasteride ขนาด 1 มิลลิกรัมต่อวัน ต้องใช้ยาติดต่อกันนานอย่างน้อย 1 ปี และเมื่อได้ผลแล้วต้องใช้ยาต่อไป เพราะถ้าหยุดยาผมที่งอกขึ้นมาจะกลับบางลงเหมือนเดิม (ยาชนิดนี้ไม่ได้ผลนักในผู้หญิงที่หมดประจำเดือนแล้ว)        ภาวะนี้จะต่างจาก 2 โรคข้างต้น โดยทั่วไปอาจพบผมหลุดร่วงเป็นหย่อมเดียวหรือหลายหย่อม ในรายที่อาการรุนแรงผมจะร่วงทั้งศีรษะ (alopecia totalist) และถ้ารุนแรงที่สุดผมและขนตามตัวจะร่วงหมดเหมือนพญาไร้ใบ (alopecia universalis) การรักษา ควรปรึกษาแพทย์เพราะการรักษาต้องใช้สเตียรอยด์ชนิดทารับประทานหรือฉีดติดต่อกันเป็นเวลานาน
       
       1.4 ผมร่วงหย่อมชนิดที่มีแผลเป็นบนหนังศีรษะ เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น โรคฝีหนองบนศีรษะ เชื้อกลากที่ศีรษะชนิดที่มีการอักเสบรุนแรง แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก โรคดี แอล อี ที่หนังศีรษะ ส่วนใหญ่รากผมจะถูกทำลายอย่างมากจนไม่สามารถสร้างเส้นผมใหม่ขึ้นมาทดแทนเส้นผมเดิม และเกิดพังผืดในชั้นหนังแท้ ร่วมด้วยการรักษา ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องก่อนให้การรักษาด้วยยา
       
       2. ภาวะผมร่วงทั่วศีรษะ ที่พบบ่อย ๆ คือ
       2.1 ภาวะผมร่วงระยะ Telogen คนกลุ่มนี้เส้นผมบนศีรษะเปลี่ยนจากระยะเติบโตไปเป็นระยะหยุดเจริญเติบโต ผมจึงหลุดร่วงมากผิดปกติ เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น โรคติดเชื้อชนิดต่าง ๆ เช่น ไข้ไทฟอยด์ ไข้มาลาเรีย ไข้หวัดที่มีไข้ติดต่อกันหลายวัน ยาชนิดต่าง ๆ เช่น ยากลุ่มอนุพันธ์วิตามิน เอ เช่น etretinate, acitretin นอกจากนี้ยังพบในสตรีหลังคลอดบุตร ภาวะเครียดหรือตกใจอย่างรุนแรง อาการผมร่วงจะค่อย ๆ ดีขึ้น ภายในเวลา 1-2 เดือนเมื่อสาเหตุต่างๆผ่านไป
       
       2.2 ภาวะผมร่วงทั่วศีรษะจากการติดเชื้อซิฟิลิสระยะที่ 2 ผมจะร่วงเป็นหย่อม ๆ ทั่วศีรษะคล้ายมอดแทะ การวินิจฉัยที่แน่นอนต้องอาศัยการตรวจเลือด
       
       2.3 ภาวะผมบางจากพันธุกรรมและฮอร์โมนเพศ จะเกิดอาการรากผมค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงจากผมเส้นใหญ่เป็นผมเส้นเล็ก ถ้าเกิดในผู้ชาย ผมจะบางลงมากในบริเวณกลางศีรษะ ส่วนผู้หญิง ผมจะบางลงบริเวณกลางศีรษะเช่นเดียวกัน แต่จะไม่ล้านเตียนโล่งแบบผู้ชาย การรักษา ภาวะผมบางชนิดนี้จะใช้ยาปลูกผมซึ่งมีหลายชนิดดังนี้
       1. Minoxidil มีทั้งชนิดทาและรับประทาน ไม่เหมาะที่จะให้ผู้หญิงรับประทานเพราะจะทำให้ขนตามตัว หนวด เครายาวผิดปกติในผู้หญิง ควรใช้ยานี้ในรูปยาทาเท่านั้น

       
       3. Spironolactone เป็นยาขับปัสสาวะ ใช้ลดความดันเลือด มีฤทธิ์ต้านการทำงานของฮอร์โมน androgen ทำให้เส้นผมไม่เปลี่ยนเป็นขนาดเล็ก พึงระวังการใช้ยาชนิดนี้ ต้องติดตามดูความดันเลือดและระดับเกลือแร่ในเลือดเพื่อป้องกันผลข้างเคียงของยาด้วย
       

นพ. ป่วน สุทธิพินิจธรรม

* ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9500000029864