กระดูกเชิงกรานประกอบด้วยกระดูกทั้งสิ้น 3 ชิ้น คือ กระดูกก้นกบ (Sacrum) กระดูกสะโพก (Ilium) ด้านซ้ายและขวา
กระดูกเชิงกราน จะทำหน้าที่เชื่อมระหว่างกระดูกสันหลังซึ่งเป็นแกนกลางของร่างกาย
กับ กระดูกรยางค์ คือกระดูกสะโพกและขาทั้ง 2 ข้าง
การแตกหักของกระดูกเชิงกรานนั้น ในคนทั่วไปมักเกิดการแตกหักจากอุบัติเหตุที่มีความรุนแรง
เช่น อุบัติเหตุทางรถยนต์ พลัดตกจากที่สูง หรือได้รับแรงกระแทกโดยตรงบริเวณสะโพก หรือเชิงกราน
แต่หากในบุคคลที่มีภาวะกระดูกพรุน อุบัติเหตุเพียงเล็กน้อยอาจทำให้กระดูกเชิงกรานแตกหักได้
ซึ่งความรุนแรงของอาการในผู้ที่กระดูกเชิงกรานแตกนั้นจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับลักษณะการแตกหัก
เริ่มตั้งแต่
1. มีการปวด เวลานั่งบางท่า
2. มีอาการปวดจนไม่สามารถขยับสะโพกได้
3. มีอาการบาดเจ็บร่วมของระบบทางเดินปัสสาวะหรืออวัยวะภายในอุ้งเชิงกราน
4. มีอาการบาดเจ็บของเส้นประสาทบริเวณเอวส่วนล่างและก้นกบ
บางรายอาจรุนแรงไปถึงการเสียชีวิตเนื่องจากเสียเลือดปริมาณมาก
อาการปวด
ที่ช่วยให้เราทราบว่าตนเองอยู่ในภาวะเสี่ยงของกระดูกเชิงกรานหักหรือไม่
1. มีอาการปวดบริเวณเชิงกราน ไม่สามารถขยับพลิกตัวหรือขยับสะโพกได้
2. มีอาการผิดรูปบริเวณกระดูกเชิงกรานหรือสะโพก
3. มีอาการชาบริเวณรอบทวารหนัก หรือมีปัญหาเรื่องการขับถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะ
4. มีอาการเจ็บบริเวณแก้มก้นตรงจุดที่สัมผัสกับเก้าอี้เวลานั่ง
5. มีรอยแผล หรือรอยฟกช้ำชัดเจนบริเวณสะโพกและเชิงกรานร่วมกับอาการดังกล่าว
ส่วนการปฏิบัติตัวหลังจากเกิดอุบัติเหตุ ผู้ที่เข้าช่วยเหลือควรปฏิบัติตัวดังนี้
1. ให้ผู้ป่วยควรอยู่ในท่านิ่งที่สุด แม้ในขณะเคลื่อนย้าย
เพื่อป้องกันการเคลื่อนของชิ้นกระดูกที่หักและการบาดเจ็บเพิ่มเติมของอวัยวะข้างเคียง
2. หากมีบาดแผลเปิดให้ใช้ผ้าสะอาดปิดบริเวณปากแผล
3. หากผู้ป่วยพอที่จะขยับตัวได้ ให้ขยับตัวช้าๆ ในท่าทางที่ผู้ป่วยเจ็บปวดน้อยที่สุด
4. หากไม่แน่ใจว่ามีกระดูกหักหรือไม่ ไม่ควรนวดหรือดัดร่างกาย
5. ควรประคบเย็นบริเวณที่มีอาการปวด บวม หรือ ฟกช้ำ
สำหรับการตรวจวินิจฉัยภาวะกระดูกเชิงกรานหัก
สามารถทำได้โดยการถ่ายภาพรังสีทั่วไป ร่วมกับการทำ CT scan ซึ่งแนวทางการรักษานั้นขึ้นอยู่กับบริเวณที่แตกหักและความรุนแรง การรักษาสามารถทำได้ตั้งแต่นอนพักจนกว่ากระดูกจะติด ไปจนถึงการผ่าตัดเพื่อใส่โลหะยึดกระดูกสำหรับข้อบ่งชี้ในการผ่าตัด คือกระดูกที่แตกหักไม่มีความมั่นคงพอที่จะรับน้ำหนัก หรือ รับการขยับเคลื่อนไหวได้, กระดูกที่แตกหักมีการผิดรูปมาก, มีการแตกหักของกระดูกเข้าไปในส่วนของข้อต่อสะโพก และทำให้เกิดความไม่เรียบของผิวข้อ, มีการบาดเจ็บของอวัยวะอื่นๆ ร่วมด้วยที่จำเป็นต้องผ่าตัด เช่น มีการบาดเจ็บของลำไส้ ทางเดินปัสสาวะ หลอดเลือด หรือเส้นประสาท หลังการผ่าตัดใส่โลหะยึดกระดูกโดยทั่วไปแล้วผู้ป่วยสามารถขยับร่างกายได้ตามปกติทันทีหลังผ่าตัด แต่อาจจะต้องระมัดระวังเรื่องการลงน้ำหนักในขาข้างเดียวกับที่มีการแตกหักของกระดูก นานประมาณ 6-12 สัปดาห์
นพ.ภัทร โฆสานันท์ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลเวชธานี
* ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.yaklai.com/featured/broken-pelvic/