ปัจจุบันการจัดฟันเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ในวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา และวัยทำงาน หลายคนจัดฟันเพื่อแก้ปัญหาสุขภาพฟัน โดยใช้บริการคลินิกหรือร.พ.ที่ได้มาตรฐาน มีทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ใส่เครื่องมือให้ แต่ก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อย ที่มองว่าการจัดฟันเป็นเพียงแฟชั่นสวยงามเท่านั้น ไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ที่แท้จริง โดยไม่ทราบว่าอาจจะมีอันตรายที่คาดไม่ถึงตามมา
ทพ.ธนา จูระมงคล ผอ.ศูนย์ทันตกรรม ร.พ.ปิยะเวท กล่าวว่า การจัดฟันคือการรักษาทางทันตกรรมแขนงหนึ่ง เน้นการแก้ไขปัญหาฟันเรียงตัวและการสบฟันที่ผิดปกติ กรณีที่เห็นได้ชัดเจนคือ ในคนไข้ที่มีฟันเกมากๆ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับเหงือกและขากรรไกร ซึ่งทำให้การทำความสะอาดฟันเป็นไปได้ยาก มีปัญหาการพูดและการบดเคี้ยว นำมาซึ่งสาเหตุของโรคฟันผุ เหงือกอักเสบ
นอกจากนี้ การจัดฟันยังช่วยให้มีระบบการเคี้ยวที่ดีขึ้น และการออกเสียงไม่ชัดในคนไข้บางราย เนื่องจากการจัดฟันนั้นจะทำให้ฟันไปอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง และในบางกรณียังสามารถทำให้ใบหน้าดูสมส่วนขึ้น ทั้งนี้ การจัดฟันควรได้รับคำปรึกษาจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เนื่องจากจะทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของฟัน ซึ่งจะส่งผลต่อทั้งตัวฟันและอวัยวะโดยรอบฟัน เช่น เหงือก กระดูกที่ห่อหุ้มฟัน และก่อนจะจัดฟันต้องเตรียมช่องปากของคนไข้ให้มีความพร้อมก่อน
อันตรายของการจัดฟันที่ไม่ได้มาตรฐานนั้น มักจะทำโดยร้านที่ไม่มีความรู้เรื่องทันตกรรม ทำให้เกิดอันตรายต่างๆ ตามมา อาทิ เครื่องมือที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ อุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องปาก วัสดุอาจปนเปื้อนสารพิษต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตะกั่ว ซิลิเนียม โครเมียม และสารหนู ซึ่งอาจจะทำให้ถูกดูดซึมเข้าร่างกาย สะสมในระยะยาว บางรายอาจถึงขั้นไตวายได้ กรณีที่ติดเครื่องมือผิดวิธี อาจทำให้วัสดุหลุดลงคอด้วย หากจำเป็นต้องจัดฟันควรปรึกษาทันตแพทย์และเลือกใช้บริการคลินิก หรือ ร.พ.ที่ได้มาตรฐาน
การดูแลรักษาช่องปากที่ถูกวิธีสำหรับผู้ที่จัดฟันนั้น ทพ.ธนาแนะนำว่า ระหว่างจัดฟันควรดูแลความสะอาดของฟันและช่องปากอยู่เสมอ ควรใช้แปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะ และยังมีอุปกรณ์ที่ช่วยทำความสะอาดในตำแหน่งที่แปรงธรรมดาเข้าไม่ถึง และควรงดรับประทานอาหารที่แข็งและเหนียว เช่น ตังเม หรือหมากฝรั่ง ระมัดระวังในการรับประทานของหวาน สิ่งสำคัญไม่ควรลืมว่าการจัดฟันจะสำเร็จได้ผลเต็มที่หรือไม่ ต้องอาศัยความร่วมมือจากคนไข้ที่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด
* ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.piyavate.com/article/frontend/article_detail/id/464